นาย Max Keizer Bitcoin Maximalist ชื่อดังได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปิดตัวของแพลตฟอร์ม DeFi ThorSwap เมื่อเร็ว ๆ นี้ หลังจากแฮ็กเกอร์ FTX พยายามแปลง Ethereum ที่ถูกขโมยผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าว
แพลตฟอร์ม ThorSwap ได้เข้าสู่โหมดปิดปรับปรุงหลังจากแฮ็กเกอร์ที่ขโมยเหรียญคริปโตกว่าหลานล้านดอลลาร์สหรัฐจากกระดานเทรด FTX เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วพยายามแปลง Ethereum ที่ขโมยมาผ่านแพลตฟอร์ม
แฮ็กเกอร์ขโมยเหรียญคริปโตจากกระดานเทรด FTX จำนวนมาก และแปลงไปเป็น Ethereum จำนวน 180,000 ETH
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาแฮ็กเกอร์รายนี้ได้แปลงเหรียญ Ethereum จำนวน 76,636 ETH ไปเป็น tBTC ผ่านทาง Threshold Network หลังจากทาง ThorSwap หยุดให้บริการเพื่อไม่ได้แฮ็กเกอร์แปลงเงินที่ขโมยมา
ปัจจุบัน แฮ็กเกอร์ยังคงถือเหรียญ Ethereum ไว้ประมาณ 110,000 ETH โดยนาย Max Keizer กล่าวว่าการปิดบริการแพลตฟอร์ม DeFi เพื่อป้องกันการกระทำดังกล่าวเป็นจริงที่ทำลายความกระจายอำนาจของระบบการเงิน
ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ชัดเจนแล้วว่าการทำให้มันกระจายอำนาจต่อไปและปล่อยให้แฮ็กเกอร์แปลงเงินที่ถูกขโมยไปจะเป็นสิ่งที่เขาเลือก
Max Keizer กล่าวว่าเหรียญคริปโตเป็นสิ่งหลอกลวง
นาย Max Keizer เป็น Bitcoin Maximalist มาอย่างยาวนาน และได้บอกว่าเหรียญคริปโตตัวอื่น ๆ รวมถึง Ethereum เป็นสิ่งหลอกลวงและควรถูกแบน
นอกจากนี้เขายังสนับสนุน SEC ในการปราบปรามกระดานเทรดคริปโตหลายแห่ง โดยนาย Gary Gensler ประธาน SEC ได้ออกมาระบุว่าเหรียญคริปโตทั้งหมดนอกจาก Bitcoin เป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน
นาย Keiser ยังเข้าข้างสำนักงาน SEC ในคดีระหว่าง Ripple-SEC ชื่อดัง ซึ่งได้มีมาตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2020 และเมื่อเร็ว ๆ นี้ทางบริษัท Ripple ก็ได้รับชัยชนะครั้งใหญ่หลังจากที่ศาลตัดสินว่า XRP ไม่นับเป็นหลักทรัพย์
Source: U.Today