เพื่อเป็นการตอบสนองต่อการปราบปรามการขุด crypto ของจีน Bitcoin (BTC) ได้หันไปใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนมากยิ่งขึ้นส่งผลให้ความต้องการพลังงานของเครือข่ายลดลงกว่า 20%
หลังจากที่ราคา Bitcoin แตะระดับสูงสุดประวัติการณ์ในเดือนพฤศจิกายน 2021 ที่ราคา 69,000 ดอลลาร์ได้บันทึกการใช้พลังงานมากถึง 15.80 GW ต่อวันก็ได้ลด hash rate ทั่วโลกมาอยู่ที่ 10.49 GW ต่อวัน ตามการประมาณการที่คำนวณโดยดัชนีการใช้ไฟฟ้าของ Cambridge Bitcoin ณ วันที่ 9 สิงหาคม 2022
จากแนวโน้มขาลง ความต้องการไฟฟ้าลดลง 21% ตั้งแต่ต้นปี โดยลดลงจาก 13.28 GW ในวันที่ 2 มกราคม 2022 เป็น 10.49 GW ในวันที่ 8 สิงหาคม 2022
ด้วยราคา Bitcoin ที่ลดลงอย่างมากและผลกำไรจากการขุดที่ลดลง ความต้องการไฟฟ้าก็ลดลงเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าการหันไปใช้พลังงานสีเขียวก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ความต้องการพลังงานลดลงเช่นกัน
นโยบายการขุด Bitcoin ใหม่ของรัฐบาลสหรัฐฯ
เป็นที่กล่าวขวัญเป็นอย่างมากหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐประกาศแผนสำหรับนโยบายเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกในการขุด Bitcoinเพื่อจัดการกับปัญหาการควบคุมพลังงานของภาคส่วนและผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
กล่าวคือการมีส่วนร่วมของทำเนียบขาวในการขุด Bitcoin มีจุดมุ่งหมายเพื่อดำเนินการควบคุมพื้นที่อุตสาหกรรม crypto ท่ามกลางความกังวลว่ากิจกรรมการขุดจะก่อให้เกิดการปล่อยคาร์บอนส่วนเกิน
ในเดือนมกราคมตามรายงานของ Bitcoin Mining Council (BMS’s) แสดงให้เห็นว่าเกือบ 60% ของไฟฟ้าที่ใช้เพื่อเพิ่มพลังให้เครื่องขุด Bitcoin อาจมาจากแหล่งที่สะอาด
สิ่งนี้ได้เผยให้เห็นถึงแนวโน้มที่ยังคงมีอยู่จนถึงทุกวันนี้ โดยได้รับการสนับสนุนโดยรายงานประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2022 ของ BMS ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าพลังงานสีเขียวและประสิทธิภาพทางเทคโนโลยีสามารถทำงานร่วมกันเพื่อสร้างผลกำไรที่ยั่งยืนได้
“จากข้อมูลนี้ คาดว่าส่วนผสมไฟฟ้าที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมการขุด Bitcoin ทั่วโลกตอนนี้อยู่ที่ 59.5% หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 6% เมื่อเทียบเป็นรายปี นอกจากนี้เมื่อเทียบเป็นรายปีคาดว่าประสิทธิภาพทางเทคโนโลยีของเครือข่าย Bitcoin ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 46% จาก 14.4 EH ต่อ GW ในไตรมาสที่ 2 ปี 2021 เป็น 21.1 EH ต่อ GW ในไตรมาสที่ 2 ปี 2021 ซึ่งประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นนี้แสดงความจริงที่ว่าเครือข่าย Bitcoin เติบโตอย่างต่อเนื่อง มันจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป”
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ตลาดคริปโตพังทลายในเดือนพฤษภาคม ซึ่งทำให้ราคาของ Bitcoin ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือน ส่งผลให้ การขุด Bitcoin หยุดการทำกำไรชั่วคราวสำหรับผู้ขุดในเดือนมิถุนายน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความต้องการพลังงานที่ลดลง