Bitcoin ดูจะเหมาะสมสำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนของรัสเซียเป็นอย่างมากในช่วงแรก แต่ด้วยเหตุผลหลายประการที่ทำให้ตัวเลือกดังกล่าวเป็นที่น่าสงสัยอย่างมาก
แม้ว่ารัสเซียจะผลักดันแนวคิดในการใช้ cryptcurrency สำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดน แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าสินทรัพย์ดิจิทัลใดที่รัฐบาลจะมีแผนที่จะใช้สำหรับธุรกรรมดังกล่าว
มีรายงานว่าทางการรัสเซียไม่เห็นด้วยกับการอนุมัติ Bitcoin สำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนตามที่ทนายความท้องถิ่นและผู้บริหาร FinTech ชื่อดังได้เปิดเผยไว้
ธนาคารแห่งรัสเซียจำเป็นต้องควบคุมการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน
เมื่อไม่นานมานี้รัสเซียอนุญาตให้ใช้ Bitcoin หรือสกุลเงินดิจิทัลที่คล้ายคลึงกันสำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนแม้ว่าสินทรัพย์ดังกล่าวจะ “ควบคุมได้ยาก” ก็ตาม ตามคำพูดจาก Elena Klyuchareva ผู้ช่วยอาวุโสของสำนักงานกฎหมายท้องถิ่น KKMP
ทั้งนี้ Klyuchareva เน้นย้ำว่าร่างแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการชำระเงิน crypto ข้ามพรมแดนยังไม่สามารถใช้ได้ ในขณะที่รายงานระบุเพียงว่าธนาคารแห่งรัสเซียและกระทรวงการคลังได้ตกลงกันในแนวทางร่วมกันในประเด็นนี้
ทนายความได้กล่าวแสดงความคิดเห็นว่าสกุลเงินดิจิทัลที่รัสเซียใช้สำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนมักเป็นสกุลเงินท้องถิ่น ดังนั้นหากจะมีหน่วยงานกำกับดูแลที่สามารถตรวจสอบและควบคุมธุรกรรมได้อย่างเหมาะสมก็สมควรที่จะเป้นสถาบันรายใหญ่ เช่น ธนาคาร เท่านั้น
มีข้อสงสัยใน USDT และ USDC
รัสเซียควรเลือกสกุลเงินดิจิทัลสำหรับการตั้งถิ่นฐานข้ามพรมแดนในขณะที่ขจัดแรงกดดันที่เป็นไปได้ทั้งหมดจากประเทศอื่น ๆ ตามที่ Eduard Davydov หุ้นส่วนอาวุโสของ Emet Law Firm กล่าว ดังนั้น cryptocurrency ที่ออกในสหรัฐอเมริการวมถึงเหรียญ stablecoin หลัก ๆ เช่น Tether (USDT) หรือ USD Coin (USDC) จะ “ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดดังกล่าว”
Bitcoin ดูเหมาะสมแต่ผันผวนสูง
Sergey Mendeleev CEOของ InDeFi Smart Bank ยังเชื่อว่า cryptocurrency ที่กระจายอำนาจเช่น Bitcoin จะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการชำระเงิน crypto ของรัสเซียหากมีความผันผวนน้อยกว่า
Mendeleev ยังกล่าวด้วยว่ามันยากที่จะจินตนาการถึงสถานการณ์ที่ธุรกิจต่างประเทศจะยอมรับการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลที่ตรึงเงินรูเบิลของรัสเซีย
CEO ยังแสดงความหวังว่าหน่วยงานกำกับดูแลของรัสเซียจะมีความกล้าหาญเพียงพอที่จะอนุญาตให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากต่างประเทศด้วย Stablecoin
อิหร่านเป็นต้นแบบของรัสเซีย
รัสเซียเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกที่อนุญาตการชำระเงิน crypto ข้ามพรมแดนในขณะที่ห้ามการชำระเงิน crypto ในท้องถิ่นควบคู่ไปกับการแลกเปลี่ยน crypto ในท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม มีบางประเทศที่สามารถทำหน้าที่เป็นตัวอย่างของรัฐบาลที่ใช้แนวทางเดียวกันกับการเข้ารหัสลับ
ตัวอย่างที่ดีอาจเป็นอิหร่าน ซึ่งอยู่ภายใต้การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ Davydov แนะนำ โดยอ้างถึงอุตสาหกรรม เหมืองแร่ และการค้าของอิหร่านที่อนุมัติการใช้ crypto สำหรับการนำเข้าในปลายเดือนสิงหาคม หน่วยงานของอิหร่านกล่าวว่ามาตรการใหม่นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยอิหร่านบรรเทาการคว่ำบาตรการค้าโลกที่ตัดประเทศออกจากระบบธนาคารทั่วโลก
ในเดือนสิงหาคม อิหร่านได้สั่งซื้อการนำเข้าระหว่างประเทศครั้งแรกโดยใช้สกุลเงินดิจิทัลมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่การค้าระดับสูงของรัฐบาลรายงาน จ้าหน้าที่ไม่ได้ระบุว่าสกุลเงินดิจิทัลใดที่ใช้สำหรับการทำธุรกรรม
ในระหว่างนี้ อิหร่านยังไม่อนุญาตให้ผู้อยู่อาศัยชำระเงินโดยใช้สกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin อย่างเป็นทางการ เนื่องจากธนาคารกลางของอิหร่านได้ห้ามมิให้มีการใช้ crypto สำหรับการชำระเงินภายในประเทศในร่างข้อบังคับ crypto ตั้งแต่ปี 2019 เช่นเดียวกับรัสเซีย ทำให้ปัจจุบันการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลยังคงผิดกฎหมายในอิหร่าน
อย่างไรก็ตามรัสเซียได้มุ่งความสนใจเพื่อยอมรับ crypto สำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนมากยิ่งขึ้นท่ามกลางการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของตะวันตกภายหลังการรุกรานยูเครน อีกทั้ง Anatoly Aksakov หัวหน้าคณะกรรมการการเงินในสภาผู้แทนราษฎรของรัสเซียกล่าวว่ารัสเซียอาจเริ่มการชำระเงินข้ามพรมแดนด้วย crypto ในปี 2023 ซึ่งกำลังมองหาเลือกอยู่ว่าจะเป็น Ethereum, Bitcoin หรือสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ
ที่มา : cointelegraph