<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

รัฐบาลออสเตรเลียสั่งเพิกถอนใบอนุญาตของ FTX Australia แล้ว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

FTX Australia จะสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการแบบจำกัดได้จนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2022 เนื่องจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และการลงทุนของออสเตรเลีย ( ASIC) ระงับใบอนุญาต FTX Australia เป็นที่เรียบร้อยโดยมีผลการระงับจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2023 หลังจากความล้มเหลวล่าสุดของกระดานเทรดที่เกิดขึ้น

มีรายงานเปิดเผยว่าความผิดพลาดดังกล่าวส่งผลกระทบต่อนักลงทุนในออสเตรเลียประมาณ 30,000 รายซึ่งถือเป็นปริมาณที่มากที่สุดประวัติการณ์ในอุตสาหกรรมคริปโต

การประท้วงครั้งล่าสุดบน FTX

แม้จะสิ้นสุดใบอนุญาต แต่ FTX Australia จะสามารถให้บริการแบบจำกัดแก่ลูกค้าในท้องถิ่นได้จนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2022

ทั้งนี้ ASIC เตือนว่ากระดานเทรดคริปโตได้รับอนุญาตให้ “ให้คำแนะนำทั่วไปเกี่ยวกับอนุพันธ์และสัญญาแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแก่ลูกค้ารายย่อยและผู้ค้าส่ง” อีกทั้งการล่มสลายของ FTX ทำให้ออสเตรเลียจำนวนต้องใช้มาตราการที่รุนแรงเพื่อปกป้องนักลงทุนในประเทศ

“ASIC กำลังติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิดและพูดคุยกับหน่วยงานกำกับดูแลระหว่างประเทศและผู้ดูแลระบบภายนอกอย่างสม่ำเสมอ ASIC สนับสนุนให้ลูกค้าของ FTX Australia ติดตามสถานการณ์อย่างระมัดระวังและมองหาการอัปเดตจาก FTX Group รวมถึงจากผู้ดูแลระบบของ FTX Australia” 

การระงับมีขึ้นไม่กี่วันหลังจากทางการแต่งตั้งจอห์น John Mouawad, Scott Langdon และ Rahul Goyal (ส่วนหนึ่งของบริษัทที่ปรึกษาคอร์ดาเมนทา) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในท้องถิ่นในการฟื้นฟูทรัพย์สินบางส่วนหลังการล่มสลาย

การรายงานข่าวล่าสุดแจ้งว่ามีชาวออสเตรเลียอย่างน้อย 30,000 คนและบริษัทกว่า 130 แห่งที่ประสบภาวะขาดทุนเนื่องจากวิกฤตการณ์ดังกล่าว

ผลกระทบโดมิโน

การล่มสลายของเว็บกระดานเทรดของ Sam Bankman-Fried ได้ส่งคลื่นกระแทกไปทั่วทั้งอุตสาหกรรม โดยส่งผลให้ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลร่วงลงทันทีสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์ และยังส่งผลให้ Altcoins ร่วงลงอย่างรุนแรง

ความกังวลเกี่ยวกับเงินของนักลงทุนที่เก็บไว้บนกระดานเทรดต่าง ๆ เริ่มเพิ่มมากขึ้นทำให้ในช่วง 7 วันที่ผ่านมามีการถอนเงินบนกระดานเทรดทั่วโลกไปแล้วมากถึง 8 พันล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม Binance กระดานเทรดคริปโตยักษ์ใหญ่ระดับโลกได้เพิ่มกองทุน Secure Asset Fund for Users (SAFU) เป็น 1 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่ OKX สาบานว่าจะจ่าย 100 ล้านดอลลาร์ให้กับโครงการที่ได้รับผลกระทบและโครงการที่เต็มใจจะย้ายออกจากบล็อกเชน Solana