หลังจากที่ Crypto อันดับสองของโลกตามมูลค่าตลาดอย่าง Ethereum ได้เปลี่ยนผ่านไปสู่กลไกการทำงานจาก Proof-of-Work เป็น Proof-of-Stake ก็พบว่า การใช้พลังงานในเครือข่ายของ Ethereum ได้ลดลงอย่างมาก จนนับเป็นส่วนสำคัญในการช่วยประหยัดพลังงานของอุตสาหกรรมทั่วโลกลงเป็นอย่างมาก
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ตามรายงานที่ตีพิมพ์โดย Patterns วารสารข้อมูลวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่าการอัปเกรดดังกล่าวนี้มีแนวโน้มที่จะลดการใช้พลังงานของอุตสาหกรรม Crypto ลงจาก 99.84% จนเหลือเพียงแค่ 9.99% เท่านั้น
“มุมมองนี้เน้นย้ำว่า Ethereum ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองตามมูลค่าตลาด มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในการลดความต้องการด้านพลังงานลงอย่างมากผ่านเหตุการณ์อัพเกรดที่เรียกว่า The Merge” ข้อมูลในวารสารระบุ
ทั้งนี้ทางวารสารได้อธิบายอีกว่าปริมาณการใช้พลังงานของเครือข่าย Ethereum ลดลงนั้น อาจเป็นปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศออสเตรียหรือไอร์แลนด์
งานวิจัยยังคาดการณ์ด้วยว่าความสำเร็จของการอัปเกรด The Merge อาจนำไปสู่การเปลี่ยนกลไกการทำงานของ Bitcoin เป็น Proof-of-Stake รวมไปถึงสินทรัพย์ Crypto อื่น ๆ ที่ยังคงใช้กลไก Proof-of-Work และชุมชน Ethereum จะยังคงประกาศ “ชัยชนะอย่างสมบูรณ์” เหนือข้อกังวลด้านความยั่งยืนในสินทรัพย์ดิจิทัล
บล็อกเชนของ Ethereum เป็นฐานข้อมูลไดนามิกขนาดใหญ่ที่บันทึกทุกธุรกรรมและรองรับ Ethereum (ETH) เช่นเดียวกับเหรียญ Crypto อื่นๆ ทั้งหมด ทั้งนี้บริษัทและอาสาสมัครที่สนับสนุนคอมพิวเตอร์ของตนในการดำเนินงานของเครือข่ายจะได้รับเหรียญ Crypto ใหม่ และเพิ่มโอกาสในการผลิตเหรียญใหม่ตามที่พวกเขาต้องการ
ที่มา: interestingengineering