Warren Buffett มหาเศรษฐีนักลงทุนวัย 92 ปี ยังคงพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังเดิมของเขาในรัฐเนบราสก้าที่เขาซื้อมาในราคา 31,500 ดอลลาร์หรือราว ๆ 1 ล้านบาทเมื่อปี 1958 นับว่าเขาได้อยู่ในบ้านหลังนี้มาเป็นเวลากว่า 65 ปีแล้ว แม้ว่าตอนนี้เขาจะรวยล้นฟ้าและติดอันดับที่ 5 ของบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกตามการอันดับของ Fobes
“เขาเป็นคนจริง” Becky Quick นักข่าวจากสำนักข่าว CNBC ผู้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ Warren Buffett มาอย่างยาวนานจากการเข้าสัมภาษณ์เขาอยู่บ่อยครั้งกล่าว “ความเป็นคนจริงของ Warren Buffett ยังคงอยู่ จากการที่เขาใช้ชีวิตตามที่เขาพูด”
Warren Buffett ได้กล่าวถึงประโยชน์ของการเป็นเจ้าของบ้านเดิมมาอย่างต่อเนื่อง และเรียกบ้านของเขาว่า เป็นการลงทุนที่ดีที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของเขาในหนังสือถึงผู้ถือหุ้นเมื่อปี 2010
บ้านของเขาหลังนี้มีขนาด 6,570 ตารางฟุต อยู่ห่างจากสำนักงานใหญ่ Berkshire Hathaway ซึ่งเป็นบริษัทของเขาเพียง 5 นาที และในขณะนี้ บ้านหลังนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นสูงถึง 1.2 ล้านดอลลาร์ตามการประเมินราคาล่าสุด โดยบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Zillow
“ผมมีความสุขดี ผมจะย้ายก็ต่อเมื่อผมคิดว่าผมจะมีความสุขมากกว่าหากย้ายไปอยู่ที่อื่น” Warren Buffett กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Even Davis ในรายการ The World’s Greatest Moneymaker โดยสำนักข่าว BBC
บ้านหลังนี้ทำได้ดีแล้ว “ผมอบอุ่นในช่วงฤดูหนาว ผมเย็นในช่วงฤดูร้อน มันสะดวกสบายสำหรับผมดี” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์ “ผมไม่สามารถจินตนาการถึงการมีบ้านที่ดีกว่านี้ได้เลย”
แม้จะมีรายได้สุทธิมากถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ตามข้อมูลจาก Fobes แบบ Real time แต่มหาเศรษฐีคนนี้ไม่ใช้เงินมากมายนัก โดยเขาได้เปลี่ยนโทรศัพท์เครื่องเก่ามูลค่า 20 ดอลลาร์ของเขา เป็น iPhone 11 เมื่อปี 2020 แค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้ เขายังไม่เคยเสียเงินมื้อเช้าของเขาไปมากกว่า 4 ดอลลาร์ โดยเขามักจะซื้อมื้อเช้าของเขาที่ร้าน McDonald สั่งชุดไส้กรอกมูลค่า 2.61 ดอลลาร์, ไส้กรอก ไข่ และชีส มูลค่า 2.95 ดอลลาร์ หรือเบค่อน ไข่ และชีส มูลค่า 3.17 ดอลลาร์
เขายังได้อธิบายว่า ตลาดหุ้นส่งผลกระทบอย่างไรต่อการตัดสินใจเลือกอาหารเช้าของเขา ในรายการ Becoming Warren Buffett จาก HBO เมื่อปี 2017 อีกด้วย
“ชุดอาหารเช้าราคา 3.17 ดอลลาร์ ประกอบไปด้วยเบค่อน ไข่ และบิสกิตชีส แต่เพราะตลาดหุ้นเช้านี้อยู่ในช่วงขาลง ผมเลยไม่เลือกชุดอาหารเช้าราคา 3.17 ดอลลาร์ และเลือกชุดมื้อเช้าราคา 2.95 ดอลลาร์แทน”
ที่มา: CNBC