หลังจากที่ AI-Chatbot อย่าง ChatGPT ได้รับการอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน GPT-4 และแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด ผู้คนทั่วโลกก็ต่างกังวลว่า สาขาอาชีพต่าง ๆ อาจจะถูก AI เข้ามาแทนที่ในอนาคตอันใกล้นี้ก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม ChatGPT ได้ยืนยันแล้วว่ามีอีกหลายอาชีพที่ GPT-4 จะไม่สามารถเข้ามาแทนที่มนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ตามข้อมูลที่ ChatGPT ระบุ รายละเอียดของ 20 อาชีพที่ GPT-4 จะไม่สามารถทำงานประเภทเหล่านี้ได้แทนมนุษย์นั้นมีรายชื่อดังต่อไปนี้
1. นักจิตวิทยา นักบำบัด และผู้ให้คำปรึกษา
ChatGPT อธิบายว่า AI ไม่สามารถเอาใจใส่และบำบัดรักษาอาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาวะสุขภาพจิตของบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากสุขภาพจิตเป็นสาขาที่ซับซ้อน ทั้งยังเกี่ยวข้องกับปัจจัยต่าง ๆ เช่น พันธุกรรม สิ่งแวดล้อม ประวัติส่วนตัว และบริบททางวัฒนธรรม ดังนั้นแม้ว่า AI จะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้ แต่ก็ไม่สามารถแทนที่ความเชี่ยวชาญเฉพาะบุคคลของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตได้อย่างสมบูรณ์
2. ครู
ChatGPT ยืนยันว่า GPT-4 ไม่มีทักษะด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียนอย่างการเอาใจใส่เด็กนักเรียน หรือการช่วยเหลือให้เด็กพัฒนาความสามารถด้านการปรับตัวเข้ากับสังคม ล้วนเป็นสิ่งที่ AI ไม่สามารถทำได้ ดังนั้น GPT-4 จึงไม่สามารถทำงานแทนครูได้
3. ศัลยแพทย์ และนักเทคนิคการแพทย์ฉุกเฉิน
แม้ว่า AI จะสามารถช่วยในการผ่าตัดบางขั้นตอน เช่น การให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์ แต่ไม่น่าเป็นไปได้ที่ AI เพียงอย่างเดียวจะสามารถจำลองทักษะและประสบการณ์ของศัลยแพทย์และนักเทคนิคการแพทย์ฉุกเฉินที่เป็นมนุษย์ได้ เนื่องจากทั้งสองอาชีพนี้ต้องผสมผสานทักษะที่ซับซ้อน ทั้งความคล่องแคล่ว การคิดเชิงวิพากษ์ และการตัดสินใจ ตลอดจนความสามารถในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดระหว่างทำการรักษา
4. ตำรวจ
ตำรวจเกี่ยวข้องกับงานที่ซับซ้อนเสมอ ซึ่งงานเหล่านั้นต้องใช้วิจารณญาณและการตัดสินใจของมนุษย์ และ ChatGPT ก็ยืนยันว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่ AI จะเข้ามาแทนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างสมบูรณ์ในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากตำรวจต้องตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินเท่านั้น รวมถึงการป้องกันอาชญากรรม การสืบสวน อีกทั้งตำรวจยังต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนในสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งทักษะการสื่อสารและความเอาใจใส่ของมนุษย์เป็นสิ่งที่ AI ไม่สามารถทำได้
5. นักสังคมสงเคราะห์
งานสังคมสงเคราะห์เกี่ยวข้องกับงานหลากหลายที่ต้องใช้ความเห็นอกเห็นใจของมนุษย์ การคิดเชิงวิพากษ์ และทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ เช่น การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และการเยียวยาทางจิตใจ ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นไปได้ที่ AI จะเข้ามาแทนที่นักสังคมสงเคราะห์ได้อย่างสมบูรณ์
6. ศิลปินและนักเขียน
แม้ว่า AI จะสร้างงานศิลปะในรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างแน่นอน เช่น ดนตรี ทัศนศิลป์ และวรรณกรรม แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่ GPT-4 จะเข้ามาแทนที่ศิลปินที่เป็นมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจาก AI ไม่สามารถสร้างผลงานศิลปะที่ต้องมีการตีความหมายแฝงที่ซ่อนอยู่ภายใน ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้งทางอารมณ์ของมนุษย์ อีกทั้งยังไม่มีทักษะด้านการเล่าเรื่องเพื่อให้เชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้อ่าน
7. โค้ชกีฬาและเทรนเนอร์ส่วนบุคคล
โค้ชกีฬามีหน้าที่ช่วยเหลือนักกีฬาในการพัฒนาความสามารถทางร่างกาย ความแข็งแกร่งทางจิตใจ และการคิดเชิงกลยุทธ์ ทั้งยังต้องจัดการไดนามิกของทีม กระตุ้นและสร้างแรงบันดาลใจให้นักกีฬา และวางแผนกลยุทธ์การเล่นที่ซับซ้อนตามจุดแข็งและจุดอ่อนของนักกีฬาแต่ละคน
ในทางเดียวกัน งานของเทรนเนอร์ส่วนบุคคลก็จะต้องสอนเกี่ยวกับความรู้ด้านเทคนิคเฉพาะ การถ่ายทอดความรู้จากประสบการณ์ รวมทั้งสร้างแรงจูงใจและแรงบันดาลใจให้กับผู้เรียน ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นไปได้ที่ AI จะเข้ามาแทนที่ทั้งสองอาชีพในเร็ว ๆ นี้
8. เชฟ
แม้ว่า AI สามารถจัดเตรียมสูตรอาหารและแนะนำการผสมผสานรสชาติได้ แต่ก็ไม่สามารถจำลองประสบการณ์ของเชฟที่เป็นมนุษย์ได้ เนื่องจากการทำอาหารต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ รสชาติ และการรับรู้ทางประสาทสัมผัส ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นไปได้ที่ AI จะเข้ามาแทนที่เชฟอย่างได้อย่างสมบูรณ์
9. ผู้ประกอบการ
AI สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาด ความพึงพอใจของลูกค้า และประมาณการทางการเงินได้ แต่ก็ไม่สามารถจำลองประสบการณ์ของผู้ประกอบการที่เป็นมนุษย์ได้ เนื่องจากผู้ประกอบต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ การคิดเชิงกลยุทธ์ และความสามารถในการปรับตัว ดังนั้นไม่น่าเป็นไปได้ที่ AI จะเข้ามาแทนที่ผู้ประกอบการได้ในเร็ว ๆ นี้
10. ตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้า ตัวแทนขาย นักออกแบบประสบการณ์ลูกค้า ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล และนักวางแผนกิจกรรม
ตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าและตัวแทนขาย จะต้องตอบคำถามของลูกค้า รับมือกับข้อร้องเรียน และเสนอคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ ขณะเดียวกันทั้งสองอาชีพนี้ก็ต้องจัดการกับความสัมพันธ์กับลูกค้า ต้องเอาใจใส่ลูกค้า และให้ข้อเสนอแนะแก่ผู้บริหารของบริษัท
ในทางเดียวกัน ส่วนใหญ่งานของนักออกแบบประสบการณ์ลูกค้ามุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างประสบการณ์ของลูกค้า ตลอดการปฏิสัมพันธ์กับองค์กรทุกประเภท และสำหรับงานจัดการทรัพยากรมนุษย์นั้น ก็ถือเป็นงานที่ต้องใช้ทักษะการเอาใจใส่ การสื่อสาร และการแก้ปัญหาของมนุษย์
สำหรับนักวางแผนกิจกรรม มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการและประสานงานงานต่าง ๆ เช่น การประชุม และกิจกรรมขององค์กร อีกทั้งยังต้องเจรจากับผู้ขาย จัดการโลจิสติกส์ และทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อทำงานให้ออกมาใกล้เคียงกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด
ดังนั้นงานที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและองค์กรในลักษณะเหล่านี้ จึงเป็นสิ่งที่ GPT-4 ไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่ากับมนุษย์อย่างแน่นอน
11. นักวิทยาศาสตร์
นักวิทยาศาสตร์ต้องทดสอบสมมติฐาน ออกแบบการทดลอง รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล อธิบายสิ่งที่ค้นพบกับชุมชนนักวิทยาศาสตร์และสาธารณชน และยังต้องติดตามงานวิจัยล่าสุดในสาขาของตน รวมไปถึงการทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ เพื่อพัฒนาโปรเจกต์ต่าง ๆ ดังนั้นแม้ว่า AI จะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและช่วยในการคำนวณ แต่ก็ไม่สามารถจำลองประสบการณ์ของนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์
12. นักการเมือง
AI สามารถให้การวิเคราะห์ข้อมูลและพลังในการคำนวณเพื่อช่วยในการพัฒนานโยบายและการตัดสินใจได้อย่างแน่นอน แต่ก็ไม่สามารถจำลองประสบการณ์ของนักการเมืองที่เป็นมนุษย์ได้ เพราะการเมืองเกี่ยวข้องกับความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความต้องการและผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงความสามารถในการเจรจาและประนีประนอมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางนโยบาย และทักษะในการสื่อสารประเด็นที่ซับซ้อนให้เข้าถึงจิตใจของประชาชน
แม้ว่าหลายคนจะกังวลว่า AI จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ในอุตสาหกรรมทุกภาคส่วนของโลก อย่างไรก็ตาม ยังคงมีอาชีพอื่น ๆ อีกมากมายที่ AI ไม่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ โดยส่วนมากมักเป็นงานที่ต้องอาศัยความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล การเข้าอกเข้าใจ การเอาใจใส่ และงานที่อาศัยการแสดงออกทางอารมณ์ของมนุษย์ ดังนั้นงานที่จำเป็นต้องจ้างมนุษย์ในการทำงานจึงจะยังคงมีอยู่ในอนาคตอย่างแน่นอน