ในวันที่ 14 เมษายนนี้ เว็บเทรด Bitrue ได้ออกมาประกาศว่าถูกแฮ็ก เนื่องจากแฮ็กเกอร์สามารถถอนสินทรัพย์ดิจิทัลต่าง ๆ รวมมูลค่าเกือบ 23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 787 ล้านบาท ด้วยการใช้ประโยชน์จาก Hot Wallet
การแฮ็ก Hot Wallet ในครั้งนี้ ทำให้เว็บเทรด Bitrue สูญเสียเงินไปกว่า 5% ของเงินทั้งหมด ทั้งนี้ผู้บริหารของ Bitrue ได้ให้คำมั่นสัญญาแล้วว่าจะชดเชยให้กับผู้ใช้ทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบจากการแฮ็ก
Bitrue ประกาศในวันนี้ว่าจำเป็นต้องระงับการถอนเงินทั้งหมดเป็นการชั่วคราวเนื่องจาก “การหาผลประโยชน์ในช่วงสั้น ๆ จาก Hot Wallet” โดยบริษัทคาดว่าจะเปิดให้สามารถถอนเงินได้อีกครั้งในวันที่ 18 เมษายน 2023 หลังจากดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยเพิ่มเติม
Bitrue เน้นย้ำว่าสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว และในขณะนี้ทางแพลตฟอร์มก็สามารถป้องกันไม่ให้สูญเสียเงินไปมากกว่านี้ได้สำเร็จ
“เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง และกำลังตรวจสอบสถานการณ์อยู่ในขณะนี้” Bitrue กล่าว พร้อมเสริมว่า Hot Wallet ที่ได้รับผลกระทบมีสัดส่วนเพียงกว่า 5% ของเงินทั้งหมดในเว็บเทรด
“กระเป๋าเงินที่เหลือของเรายังคงปลอดภัย และยังไม่ถูกบุกรุก เรากำลังดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างละเอียด และจะอัปเดตให้คุณทราบเมื่อมีความคืบหน้า” Bitrue กล่าวเสริม
ผู้บริหารของ Bitrue สัญญาว่าจะชดเชยเงินให้กับผู้ใช้ทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยตามประกาศ สกุลเงินที่ได้รับผลกระทบจากการถูกโจมตี ได้แก่ Ether (ETH), Shiba Inu (SHIB), Quant (QNT), Gala (GALA), Holo (HOT) และ Polygon (MATIC)
ตามข้อมูลจาก Chainalysis เป็นที่น่าสังเกตว่าแฮ็กเกอร์มักเลือกที่จะแฮ็กโปรโตคอล DeFi มากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดย Crypto ทั้งหมดที่ถูกขโมยไปในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2022 มีส่วนมาจากการแฮ็กเว็บเทรดเพียง 3% เท่านั้น ในขณะที่ 97% มีสาเหตุมาจากโปรโตคอล DeFi
เปอร์เซ็นต์ของ Crypto ที่ถูกแฮ็กในช่วง Q1 ของปี 2020-2022 จาก Chainalysis
Bitrue เป็นหนึ่งในเว็บเทรดแบบ centralized ชั้นนำที่มีการเทรด Crypto รวมมูลค่าเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์ต่อวันโดยเฉลี่ย ทั้งนี้ข้อมูลจาก CoinGecko ระบุว่า Bitrue เคยถูกแฮ็กในลักษณะเช่นเดียวกับเหตุการณ์ครั้งนี้มาแล้ว โดยในอดีต Bitrue เคยสูญเสีย Cardano (ADA) รวมมูลค่าเกือบ 5 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากการแฮ็ก Hot Wallet ในปี 2019
ที่มา: cointelegraph