<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ศาลล้มละลายอนุมัติให้ขาย LedgerX จาก FTX มูลค่า 1.686 พันล้านบาทหลังยื่นข้อตกลง MIH เพียง 2 สัปดาห์

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ศาลล้มละลายสหรัฐฯ ประจำเขตเดลาแวร์ได้อนุมัติการขาย Ledger X หนึ่งในบริษัทลูกของกระดานเทรดคริปโตที่ล้มละลาย FTX โดยการอนุมัติเกิดขึ้นเพียง 2 สัปดาห์หลังจากที่กระดานเทรดประกาศที่จะยุติการให้บริการหลังบรรลุข้อตกลงกับบริษัทในเครือของ Miami International Holdings เพื่อขาย LedgerX ในข้อตกลงมูลค่าหลายล้านดอลลาร์

FTX จะขาย LedgerX ให้กับ M7 Holdings

ในระหว่างการพิจารณาคดีล้มละลายสำหรับการขายที่เสนอได้รับการสตรีมสดทาง Youtube เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ โดยผู้พิพากษาศาลล้มละลาย John Dorsey ให้ไฟเขียว FTX ในการขายธุรกิจ LedgerX ให้กับ M7 Holdings LLC ในราคา 50 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ผู้ซื้อเป็นบริษัทในเครือของ Miami International Holdings ซึ่งเป็นเจ้าของและดำเนินการกระดานเทรดหลายแหล่ง รวมถึง Bermuda Stock Exchange และ Miami International Securities Exchange

ในขณะเดียวกัน ศาลล้มละลายได้อนุมัติการขาย LedgerX และสินทรัพย์ FTX อื่น ๆ ในเดือนมกราคม หลังจากชนะใจศาลล้มละลายและคณะกรรมการเฉพาะกิจของลูกค้าที่ไม่ได้อยู่ในสหรัฐฯ 18ราย 

สิ่งนี้ส่งผลให้สินทรัพย์ทั้งหมดได้มุ่งสู่ลานประมูล ได้แก่ Embed, LedgerX, FTX Japan และ FTX Europe ในเวลานั้นมีนักลงทุนมากถึง 117 ฝ่ายได้แสดงความสนใจในทรัพย์สินเหล่านั้น

FTX ประกาศเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2023 ว่าได้ทำสัญญาซื้อขายดอกเบี้ยกับ M7 Holdings LLC เพื่อปลดบัญชี LedgerX ข้อตกลงในการถอดการแลกเปลี่ยนอนุพันธ์ของ crypto เกิดขึ้นหลังจากกระบวนการขายที่ครอบคลุมซึ่งเห็นการมีส่วนร่วมจากผู้ประมูลหลายรายรวมถึงกระดานเทรดคริปโตชื่อดังอย่าง OKX 

ในเวลานั้น FTX ระบุว่าข้อตกลงกับ M7 นั้นขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากศาลล้มละลายเดลาแวร์ เช่นเดียวกับคณะกรรมการการค้าสินค้าโภคภัณฑ์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐฯ 

อย่างที่ทราบกันดีว่าการขาย LedgerX เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะคืนเงินให้กับเจ้าหนี้ของผู้บริหารชุดใหม่ของกระดานเทรด FTX โดย John Ray CEO คนใหม่ของ FTX กล่าวในข้อตกลงเบื้องต้นกับ M7 Holdings ว่า

“เรายินดีที่บรรลุข้อตกลงนี้กับ MIH ซึ่งเป็นตัวอย่างของความพยายามอย่างต่อเนื่องของเราในการสร้างรายได้จากสินทรัพย์เพื่อส่งมอบการกู้คืนให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย”