<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ลือสนั่น ! เครือข่าย Bitcoin อาจถูกโจมตีด้วย DDoS หลังเผชิญปัญหาธุรกรรมแออัดอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ด้วยค่าธรรมเนียมละจำนวนธุรกรรมคงค้าง (pending transection) ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ Bitcoin สิ่งนี้ได้สร้างความกังวลให้แก่ชุมชน Crypto บน Twitter ตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และนำไปสู่ความกังวลที่ว่าเหตุการณ์นี้อาจมีต้นตอสาเหตุมาจากการโจมตีแบบ Denial of Service (DDoS) ที่มุ่งโจมตีไปการทำธุรกรรมจำนวนมากบนเครือข่าย

อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ Bitcoin และนักวิจารณ์บางคน ได้ออกมาช่วยคลายความกังวลเหล่านี้ให้แก่ผู้ติดตามของพวกเขาโดยตั้งข้อสังเกตว่า “เครือข่าย Bitcoin ไม่ได้ถูกโจมตีแบบ DDos”

ปัจจุบันค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม Bitcoin บนเครือข่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 19.20 ดอลลาร์หรือ 0.00068 BTC อ้างอิงตามข้อมูลจาก BitInfoCharts ในขณะที่จำนวนธุรกรรมคงค้างของ Bitcoin บนเครือข่ายอยู่ที่จำนาน 459,341 รายการตามข้อมูลจาก Mempool Space

นอกจากนี้ความต้องการใช้งานบนเครือข่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ยังส่งผลให้ค่าธรรมเนียมต่อบล็อกของ Bitcoin เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 6.76 BTC เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมอีกด้วย

กลไกการขุดแบบ Proof-of-Work ได้กำหนดตั้งค่ารางวัลบล็อกของ Bitcoin อยู่ที่ 6.25 BTC และตัวเลขนี้จะถูกปรับลดลงครึ่งหนึ่งทุก ๆ 4 ปีจากการ Halving อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ความต้องการพื้นที่บล็อกพุ่งสูงขึ้น ตัวเลขนี้อาจพุ่งสูงเกินกว่าที่เครือข่ายกำหนดได้ ส่งผลให้ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย

นักวิเคราะห์ที่ติดตามธุรกรรมบนเครือข่าย Bitcoin รายงานว่า เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 โดยมีการบันทึกค่าธรรมเนียมเอาไว้ที่ 6.76 BTC ต่อหนึ่งบล็อก ที่ความสูงบล็อก 788695 และมีค่าธรรมเนียมต่อบล็อกสูงถึง 6.7 BTC

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดจาก Mempool Space explorer แสดงให้เห็นว่า ปัจจุบันกิจกรรมต่าง ๆ บนเครือข่าย Bitcoin เริ่มชะลอตัวลงแล้วและค่าธรรมเนียมต่อบล็อกได้ร่วงลงมาต่ำกว่ารางวัล Bitcoin ต่อบล็อกอีกครั้งหนึ่ง โดยบล็อกต่อไปคาดว่าจะมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 4.51 BTC

ดูเหมือนว่ากิจกรรมการใช้งานบนเครือข่าย Bitcoin ที่เพิ่มสูงขึ้น สาเหตุหนึ่งมาจากความต้องการ Ordinals inscriptions ของผู้ใช้งาน โดยข้อมูลจาก Glassnode พบว่า เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 75% ของการทำธุรกรรม Bitcoin บนเครือข่ายได้มีการใช้ Taproot และทำสถิติสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในวันนั้น

อย่างไรก็ดีชาวชุมชน Crypto บน Twitter บางส่วนเชื่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้อาจมาจากการโจมตีแบบ DDoS แม้ว่านักวิเคราะห์ Bitcoin จะชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้น่าจะเกิดจากความต้องการใช้งานมากกว่าที่จะถูกโจมตี โดยผู้ใช้ทวิต 0xfoobar บอกกับผู้ติดตามจำนวนกว่า 130,000 คนว่า

“ในที่สุด Mempool ของ Bitcoin ได้มีการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพและผู้ที่เชื่อมั่นใน Bitcoin มองว่ามันเป็นการโจมตี DoS ต่อระบบ พวกเขาไม่แม้แต่จะพิจารณากรณีพื้นฐานที่สุดอย่างการที่ Bitcoin กลายเป็นที่ยอมรับมากขึ้นและมีคนหลายคนต้องการใช้งาน Bitcoin”

ที่มา: Cointelegraph