<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Ripple ทุ่มเงิน 250 ล้านดอลลาร์เข้าซื้อกิจการ Metaco บริษัทดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลยักษ์ใหญ่ของสวิส

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Ripple บริษัทด้านการชำระเงินคริปโตในซานฟรานซิสโกได้ประกาศเมื่อเช้าวันนี้ว่าได้เข้าซื้อกิจการ Metaco บริษัทดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลของสวิสด้วยเงินมูลค่ามากกว่า 250 ล้านดอลลาร์

เป็นที่ทราบกันดีว่า Ripple ได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชนและการชำระเงินระดับองค์กร โดยการเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ขยายการบริการดูแลคริปโตสำหรับนักลงทุนสถาบันโดยบริษัทวางแผนที่จะเริ่มให้บริการเครื่องมือแก่ลูกค้าในการดูแล ออก และชำระสินทรัพย์โทเคนตามประกาศในวันนี้

การทำธุรกรรมซึ่งได้รับการสนับสนุนทางการเงินผ่านการผสมผสานระหว่างเงินสดและส่วนของ Ripple โดยจะทำให้ Ripple กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายเดียวของ Metaco แต่บริษัทจะยังคงดำเนินการในฐานะแบรนด์เดี่ยว Adrien Treccani ผู้ก่อตั้งและ CEO จะยังคงเป็นผู้นำธุรกิจต่อไป

“Metaco เป็นผู้นำที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลของสถาบันที่อยู่ภายใต้ผู้บริหารที่ยอดเยี่ยมและประวัติลูกค้าที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างแท้จริง” 

ทั้งนี้ Brad Garlinghouse CEO ของ Ripple กล่าวในแถลงการณ์ว่าการนำ Metaco มาใช้เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับชุดผลิตภัณฑ์ที่กำลังเติบโตของเราและการขยายขอบเขตทั่วโลก

หากใครยังไม่ทราบ Metaco ก่อตั้งขึ้นในสวิตเซอร์แลนด์ในปี 2015 และให้บริการลูกค้าหลากหลายกลุ่ม รวมถึงผู้ดูแลทรัพย์สินทั่วโลก ธนาคารขนาดใหญ่ สถาบันการเงิน และองค์กรอื่น ๆ Harmonize ผลิตภัณฑ์หลักในการดูแลคริปโตช่วยให้นักลงทุนจัดการการดูแล การซื้อขาย โทเคน การเดิมพัน และการจัดการ Smart contract ทั่วทั้งระบบนิเวศ DeFi

ข้อตกลงสำหรับ Metaco

Metaco เปิดให้บริการแล้วในหลายตลาด ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี ตุรกี ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ฮ่องกง และฟิลิปปินส์ ในขณะเดียวกัน Ripple มีลูกค้าในกว่า 55 ประเทศและสามารถให้บริการการชำระเงินในกว่า 70 ตลาดทั่วโลก

ข่าวการซื้อกิจการมาพร้อมกับ Ripple ที่ยังคงบาดหมางกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ในปี 2020 โดย ก.ล.ต. กล่าวหาว่า Ripple ระดมทุน 1.3 พันล้านดอลลาร์จากการขาย XRP ซึ่งเป็นโทเคนที่ไม่ได้จดทะเบียน

อย่างไรก็ตาม CEO Garlinghouse ได้ส่งสัญญาณย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคม 2022 ว่าบริษัทมี “งบดุลที่แข็งแกร่งมาก” และอาจแสวงหาโอกาสในการควบรวมกิจการกับบริษัทชั้นนำต่าง ๆ จำนวนมากในปี 2023