Monetary Authority of Singapore (MAS) เผยแพร่ๅ “Whitepaper ที่ระบุเงื่อนไขสำหรับการใช้สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDCs) รวมถึงเงินฝากธนาคารที่เป็นโทเคน และ Stablecoins บนเทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทแบบกระจายอำนาจ
Whitepaper ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธนำเสนอแนวคิดของ Purpose Bound Money (PBM) ซึ่งช่วยให้ผู้ส่งเงินดิจิทัลสามารถระบุเงื่อนไขต่าง ๆ เช่น ระยะเวลาที่ใช้ได้ และแม้แต่ประเภทของร้านค้าที่สามารถใช้เงินได้
การศึกษานี้ดำเนินการโดยความร่วมมือกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF), Banca d’Italia, Bank of Korea และสถาบันการเงินอื่น ๆ รวมถึงบริษัท FinTech โดยได้สรุปรูปแบบธุรกิจและเตรียมการดำเนินงานสำหรับการโอนเงินที่สามารถตั้งโปรแกรมได้ ทั้งนี้ Sopnendu Mohanty ประธานเจ้าหน้าที่ FinTech ของ MAS กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า
“ความร่วมมือระหว่างผู้เล่นในอุตสาหกรรมและผู้กำหนดนโยบายได้ช่วยให้บรรลุความก้าวหน้าที่สำคัญในด้านประสิทธิภาพการชำระบัญชี การได้มาของผู้ค้า และประสบการณ์ของผู้ใช้ด้วยการใช้เงินดิจิทัล ที่สำคัญกว่านั้น ยังได้เพิ่มโอกาสที่เงินดิจิทัลจะกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของการเงินในอนาคตและ ภูมิทัศน์การชำระเงิน”
ตามรายงานระบบ PBM ให้สิทธิ์ผู้ใช้เข้าถึงเงินดิจิทัลผ่านผู้ให้บริการกระเป๋าเงินที่พวกเขาต้องการ และอนุญาตให้ใช้งานได้หลายกรณีผ่านการส่งเสริมและทำงานร่วมกัน
Amazon และ Grab มีส่วนร่วม
Amazon, FAZZ และ Grab กำลังทำงานร่วมกันในโครงการนำร่องที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ Escrow สำหรับการชำระเงินค้าปลีกออนไลน์โดยใช้โปรโตคอล PBM
ในกรณีของการชำระเงินปลีกทางออนไลน์ โปรโตคอล PBM ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ความมั่นใจมากขึ้นแก่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย โดยทำให้แน่ใจว่าการชำระเงินจะจ่ายให้กับผู้ค้าเมื่อลูกค้าได้รับสินค้าที่ซื้อเท่านั้น
DBS, Grab, FAZZ, NETS และ UOB จะทดสอบการคืนเงินตาม PBM และสิ่งจูงใจอื่น ๆ เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้บริโภคในขณะที่ลดความขัดแย้งของนักลงทุน
Whitepaper ของ PBM สร้างจาก Project Orchid ของ MAS สนับสนุนการวิจัยเพิ่มเติมระหว่างธนาคารกลาง สถาบันการเงิน และ FinTechs เพื่อทำความเข้าใจข้อควรพิจารณาในการออกแบบในการใช้เงินดิจิทัล
อย่างไรก็ตามซอร์สโค้ด PBM และต้นแบบซอฟต์แวร์ได้รับการเผยแพร่สำหรับการเข้าถึงสาธารณะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสนับสนุนการพัฒนาและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน