<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Lightning Labs เปิดตัว “Taproot Assets alpha” นำ Stablecoin มาสู่ Bitcoin

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Lightning Labs บริษัทโครงสร้างพื้นฐานด้านบล็อกเชนและ Bitcoin Layer-2 ได้เปิดตัว Mainnet alpha ของ Taproot Assets ซึ่งเป็นโปรโตคอลเพื่อการเปิดใช้งานเหรียญ Stablecoin และสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริงบน Bitcoin และ Lightning Network

“Taproot Assets คือ วิธีที่เราแปลงเงินดอลลาร์เป็น Bitcoin และสินทรัพย์ทางการเงินของโลก” Ryan Gentry ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ Lightning Labs กล่าว

“เวอร์ชันปัจจุบันคือ Taproot Assets v0.3 ซึ่งจะมอบประสบการณ์การพัฒนาที่ครบถ้วนให้กับนักพัฒนา เพื่อให้บริการ จัดการ และสำรวจ Stablecoins รวมถึงสินทรัพย์อื่น ๆ บนบล็อกเชนของ Bitcoin”

“เราเชื่อว่าในยุคใหม่ของ Bitcoin จะเห็นสกุลเงินทั่วโลกมากมายที่ให้บริการในชื่อ Taproot Assets และธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของโลกก็จะได้รับการชำระทันทีผ่าน Lightning Network”

“ด้วยการเปิดตัวครั้งนี้ นักพัฒนาจะสามารถให้บริการสินทรัพย์ทางการเงินบนเชนในลักษณะที่ปรับขนาดได้” Lightning Labs ระบุในโพสต์บนแพลตฟอร์ม X เมื่อวันที่ 18 ต.ค. “วันนี้ถือเป็นยุคใหม่ของ multi-asset bitcoin”

Taproot Assets เวอร์ชันนี้จะทำงานโดยการกำหนดเส้นทางผ่านสภาพคล่องของ Bitcoin ที่มีอยู่บน Lightning Network

Gentry กล่าวว่า การอัปเกรดดังกล่าวจะขยายเอฟเฟกต์เครือข่ายของ Bitcoin และทำให้มันก้าวไปข้างหน้าอีกขั้นหนึ่งเพื่อ “ทำให้เงินดอลลาร์กลายเป็น Bitcoin”

“นี่คือวิธีที่เราทำให้ Bitcoin เป็นเครือข่ายที่กำหนดเส้นทางทั่วโลกสำหรับการเงินในโลกอินเทอร์เน็ต นี่คือวิธีที่เราแปลงเงินดอลลาร์และสินทรัพย์ทางการเงินในโลกให้กลายเป็น Bitcoin” Gentry กล่าวเสริม

Gentry ชี้ให้เห็นว่านักพัฒนามีความต้องการอย่างมากสำหรับแอปพลิเคชัน Stablecoin บนเครือข่าย Bitcoin โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาว่าผู้ให้บริการ Stablecoin บางรายถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ มากกว่าเยอรมนีและเกาหลีใต้

“มันบ่งบอกว่าสินทรัพย์เหล่านี้มีความสำคัญไปทั่วโลก และให้ความรู้สึกถึงขนาดสำหรับความต้องการของผู้ใช้ทั่วโลก” Gentry กล่าวเสริม

ตามข้อมูลของ Gentry ก่อนที่จะมีการเปิดตัว Mainnet alpha ได้มีการสร้าง Taproot Assets เกือบ 2,000 รายการบนเครือข่ายทดสอบ (testnet) ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้การเปิดตัว Alpha มักหมายถึงการพัฒนาที่ยังไม่เสร็จสิ้น ดังนั้น Lightning Labs จึงคาดหวังให้ชุมชนช่วยทดสอบเพื่อค้นหาบั๊กที่อาจเกิดขึ้น

นอกจากการเปิดตัวในครั้งนี้แล้ว Lightning Labs ยังมีการพัฒนาอื่น ๆ ในระบบนิเวศ Bitcoin เช่น Bitcoin Drivechains (ผ่าน Bitcoin Improvement Proposal-300), Spiderchain ของ Botanix Labs และ BitVM ซึ่งการพัฒนาเหล่านี้ล้วนมีจุดมุ่งหมายเพื่อการขยายความสามารถของ Bitcoin

ที่มา: cointelegraph