นักวิเคราะห์ของ JPMorgan ระบุว่า ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) มีแนวโน้มที่จะอนุมัติคำร้องขอก่อตั้งกองทุน Bitcoin Spot ETF ในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินล่าสุดในกรณีที่ Grayscale Investments ฟ้องร้อง
“ระยะเวลาในการอนุมัติกองทุน Bitcoin Spot ETF ยังไม่ชัดเจน แต่ควรจะเกิดขึ้นภายในไม่กี่เดือน”
“มีแนวโน้มสูงมากที่จะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 10 มกราคม 2024 ซึ่งเป็นกำหนดเวลาครั้งสุดท้ายที่ต้องพิจารณาการยื่นคำร้องของผู้สมัครรายแรก ๆ อย่าง Ark Invest และ 21Share” นักวิเคราะห์ของ JPMorgan นำโดย Nikolaos Panigirtzoglou ระบุในรายงานเมื่อวันพุธ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว SEC ปล่อยให้เส้นตายการยื่นอุทธรณ์ในคดี Grayscale สิ้นสุดลง หลังจาก Grayscale ได้รับชัยชนะในศาลเมื่อเดือนที่แล้ว ทั้งนี้ในเดือนกันยายน นักวิเคราะห์ของ JPMorgan กล่าวว่า “ขณะนี้มุมมองในเชิงบวกสำหรับการอนุมัติ Bitcoin Spot ETF ได้เพิ่มสูงขึ้น” โดยนักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า SEC อาจจะถูกบังคับให้อนุมัติ Bitcoin Spot ETF อันเป็นผลมาจากคำตัดสินของศาล
Grayscale อาจลดค่าธรรมเนียม GBTC
ตามมุมมองของนักวิเคราะห์ของ JPMorgan ดูเหมือนการอนุมัติ Bitcoin Spot ETF สำหรับ GBTC จะมีแนวโน้มเพิ่มสูงมากขึ้น ขณะที่ Grayscale มีแนวโน้มจะต้องเผชิญกับแรงกดดันในการลดค่าธรรมเนียมของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ส่วนลดของ GBTC ก็มีแนวโน้มที่จะหายไป เนื่องจากกลไกการไถ่ถอนหุ้น/กลไกการสร้างการเก็งกำไร (creation arbitrage mechanism) ในโครงสร้าง-v’ ETF
“Grayscale Bitcoin Trust เป็นกองทุน Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมี AUM (สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร) รวมมูลค่ากว่า 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ และเมื่อแปลงเป็น ETF ส่วนลดนั้นก็จะหายไปด้วย ซึ่งหมายถึงผลประโยชน์มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ของนักลงทุน” นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกต
นักวิเคราะห์ของ JPMorgan ได้ย้ำอีกครั้งเมื่อวันพุธว่า SEC ไม่น่าจะยินยอมให้ผู้ยื่นคำร้องก่อตั้ง Bitcoin Spot ETF รายอื่น ๆ ได้รับความได้เปรียบมากขึ้นจากผู้ยื่นคำร้องรายแรก ๆ ดังนั้น SEC จึงอาจอนุมัติ ETF หลายรายการพร้อมกัน
“นั่นอาจเป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุน เนื่องจากจะทำให้มีการแข่งขันมากขึ้นในแง่ของค่าธรรมเนียม ETF” นักวิเคราะห์กล่าว
เป็นที่น่าสังเกตว่าก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ของ JPMorgan เคยกล่าวไว้ว่าการอนุมัติกองทุนดังกล่าว “ไม่น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนเกมสำหรับตลาดคริปโต” เพราะ Bitcoin Spot ETF มีอยู่ในแคนาดาและยุโรปมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากนัก
ที่มา: theblock