Arthur Hayes อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ล่าสุดกับ Laura Shin ว่าธนาคารยักษ์ใหญ่มีพลังมากพอที่จะก้าวเข้ามาเป็นผู้นำตลาด Stablecoins จนสามารถโค่นล้มผู้นำในปัจจุบันอย่าง Tether ( USDT) ได้
โดย Hayes ได้ตั้งข้อสังเกตว่า แม้ Tether จะประสบความสำเร็จในการสร้างตัวเองให้เป็นเหรียญ stablecoin ชั้นนำ แต่ด้วยรูปแบบธุรกิจที่คล้ายกับธนาคาร จึงมีโอกาสสูงที่ธนาคารแบบดั้งเดิมจะสามารถนำไปใช้ได้อย่างง่ายดาย
ซึ่งเขาได้ชี้ว่าสาเหตุที่Tether สามารถเติบโตขึ้นมาได้ขนาดนี้ เป็นเพราะว่าบริษัทได้ใช้ช่องโหว่ที่ธนาคารดั้งเดิมไม่สามารถใช้ได้ด้วยข้อจำกัดทางการเมือง เช่นการสร้างผลกำไรจำนวนมาก จากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างเงินฝากดอลลาร์และตั๋วเงินคลังของสหรัฐฯ
“ข้อได้เปรียบของผู้ออก Stablecoin คือไม่มีธุรกิจอะไรที่จะหยุดพวกเขาได้ เนื่องจากบริษัทได้ใช้ธนาคารเพื่อดูแลเงินทุนของพวกเขา ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถซื้อขายตราสารหนี้ได้”
อย่างไรก็ตาม Hayes คาดการณ์ว่า ถ้าหากธนาคารรายใหญ่สามารถเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองได้ มันจะส่งผลให้ Tether ล้าสมัย
เพราะเมื่อไหร่ที่ธนาคารได้รับไฟเขียวในการเข้าร่วมตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล มันจะทำให้พวกเขาขึ้นมาได้เปรียบในตลาดด้วยเครือข่ายทางการเงินที่ครอบคลุมและกรอบการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่จำเป็นเพื่อเริ่มต้นการดำเนินงาน
และถ้าหากว่าธนาคารอย่าง JP Morgan ได้เปิดตัวเหรียญ stablecoin ของตนเอง เราก็คงจะได้เห็นธนาคารใช้ประโยชน์จากชื่อเสียงของตนเองในการโฆษณาและทำให้เหรียญของตัวเองเข้าถึงได้จากทั่วทุกมุมโลกอย่างแน่นอน ซึ่งมันจะส่งผลกระทบต่อผู้ให้บริการปัจจุบันอย่าง Tether แน่นอน
นอกจากนี้ Hayes ยังได้มีการกล่าวถึง AI ที่จะเข้ามามีบทบาทในตลาดคริปโต โดยเฉพาะกับ Bitcoin เพราะสำหรับตัวเขาแล้ว Bitcoin ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวแทนพลังงานทางการเงินที่บริสุทธิ์ นั้นเหมาะสมกับระบบ AI ที่สามารถจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพได้ด้วยคำนวณเพียงอย่างเดียว
และตัวเขาได้เสริมว่า AI นั้นเป็นระบบที่แสวงหาประสิทธิภาพและความเป็นอิสระอยู่เสมอ และมันจะหันเข้าไปมาสกุลเงินที่มีหลักการคล้ายกันอย่าง Bitcoin ซึ่งมีรากฐานที่กระจายอำนาจและใช้พลังงานเป็นหลัก
ที่มา: CryptoSlate