<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Polygon zkEVM ดับสนิท! หยุดการผลิตบล็อกนานกว่า 10 ชั่วโมง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ตอนนี้กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในชุมชนคริปโต เกี่ยวกับเรื่องที่ Polygon zkEVM หยุดทำงานอยู่ในขณะนี้ โดยที่ทาง Polygon ได้ออกมายืนยันกับผู้ใช้งานว่า กำลังรีบเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวอยู่

Polygon โซลูชันการปรับขนาด layer-2  ของ Ethereum ประกาศว่า zero-knowledge Ethereum Virtual Machine (zkEVM) ของพวกเขากำลังประสบปัญหาระบบหยุดทำงาน เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นจาก ‘Sequencer’ บนบล็อกเชนของพวกเขา

‘Sequencer’ เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างการทำงานภายในเครือข่าย Polygon zkEVM ที่ทำหน้าที่รวบรวมและจัดกลุ่มธุรกรรมก่อนส่งไปยังบล็อกเชนหลัก

ในโพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ของ Polygon ได้ยืนยันกับผู้ติดตามกว่าสองล้านคนว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นเฉพาะกับ zkEVM เท่านั้น และไม่มีผลกระทบต่อเครือข่ายอื่น ๆ ที่มีการพัฒนาโดยใช้ Polygon Chain Development Kit (CDK)

โดยข้อความในโพสต์ระบุว่า “ข้อผิดพลาดนี้ส่งผลกระทบเฉพาะ Polygon zkEVM เท่านั้น ไม่มีผลต่อ Polygon PoS, Polygon CDK หรือ เครือข่ายอื่น ๆ ที่ใช้ Polygon CDK ในการพัฒนา”

Polygon ชี้แจงว่า ปัญหานี้มาจาก Sequencer บนบล็อกเชน ซึ่งทำหน้าที่จัดกลุ่มและรวมธุรกรรมเข้าด้วยกันเป็นชุด ก่อนที่จะส่งต่อไปยังสัญญา zkEVM ของ Polygon บนเครือข่ายหลักของ Ethereum

โดยมีการยืนยันว่า ทางแพลตฟอร์มกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหานี้อย่างเต็มที่ และให้สัญญาว่า จะเผยแพร่รายงาน ‘post-mortem’ ที่ครอบคลุม เมื่อสามารถแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ เพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจ

ผู้ใช้รายหนึ่งบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ที่ใช้ชื่อว่า 0xngmi ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 101,900 ราย โพสต์ข้อความถามว่า “ทำไมไม่มีใครพูดถึงระบบ zkEVM ของ Polygon กันเลย ? ทั้ง ๆที่มันล่มไปนานถึง 10 ชั่วโมงแล้ว และตอนนี้มันก็ยังคงหยุดทำงานอยู่”

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2023 เครือข่าย Polygon ได้เปิดตัว zkEVM บนเครือข่ายหลักเบต้า (mainnet beta)  เพื่อช่วยให้นักพัฒนาสามารถนำสัญญา smart contract ไปใช้งานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทั้งลดต้นทุนของค่าธรรมเนียมให้ถูกลง

โดยทาง Polygon กล่าวว่า zkEVM เป็นโอเพ่นซอร์สที่ช่วยให้แอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps)  มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ช่วยแก้ปัญหาเรื่องความสามารถในการขยายขนาดเพื่อรองรับผู้ใช้งานจำนวนมาก ด้วยการรวมธุรกรรมเข้าด้วยกัน ส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่ายที่ดีขึ้นหลายเท่าตัว

ที่มา:cointelegraph