<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Arthur Hayes ออกโรงปกป้องเหรียญมีมคอยน์ “เร็วเกินไปที่จะดูถูกเหรียญมีมว่าโง่และไร้ค่า”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Arthur Hayes ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX มองว่าเราไม่ควรเหมารวมว่าเหรียญมีมคอยน์ (memecoin) ทุกตัวไร้ประโยชน์ เพราะมีมคอยน์บางตัวอาจมีส่วนช่วยผลักดันวงการบล็อกเชนในทางที่ดีขึ้น

ในการให้สัมภาษณ์กับ Raoul Pal ซีอีโอของ Real Vision เมื่อวันที่ 30 มีนาคม Hayes กล่าวแย้งว่า Memecoins ได้ช่วยนำคุณค่ามาสู่ภาค crypto ด้วยการดึงดูดความสนใจให้กับผู้ใช้งานใหม่และนักพัฒนาให้ก้าวเข้าสู่พื้นที่ บล็อกเชน

“เเม้ว่าคุณจะมองว่าการถือครองมีมคอยน์เป็นสิ่งที่โง่เขลาและไร้ค่า แต่ถ้าหากเหรียญมีมคอยน์สามารถดึงดูดให้วิศวกรเข้ามาสู่พื้นที่นี้ได้มากขึ้น มันก็ถือว่าเป็นการสร้างมูลค่าให้กับ Chain”

Hayes กล่าวว่า “บล็อกเชนไหนที่สามารถสนับสนุนวัฒนธรรมมีมได้ บล็อกเชนเหล่านั้นจะกลายเป็นบล็อกเชนที่มีมูลค่า” Solana และ Ethereum เป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่มีความพร้อมมากที่สุดที่จะดึงดูดกระแสความสนใจจากมีมคอยน์

เมื่อปีที่แล้วเครือข่าย Solana มีปริมาณการใช้งานเพิ่มมากขึ้น จากกระแสความคลั่งไคล้มีมคอยน์ที่เติบโตในเดือนพฤศจิกายน เดือนต่อมาก็มีโปรเจกต์บล็อกเชนตัวอื่นๆ ที่นอกเหนือจากมีมคอยน์อีกหลายโปรเจกต์ที่เปิดตัวบนเครือข่ายแห่งนี้

ในขณะเดียวกัน Bitcoin ก็มีกิจกรรมและการพัฒนาบนเครือข่ายที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่โทเคน BRC-20 และ Ordinals เริ่มกลายเป็นที่นิยมบนเครือข่าย
Pal เชื่อว่า เหรียญมีมคอยน์น่าจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในหมู่วัยรุ่นนักลงทุนคริปโต เขามองว่ามีมคอยน์จะได้ประโยชน์จาก “ทักษะการเล่นเกม” ที่มีอยู่ใน กลุ่ม Gen Z และมิลเลนเนียล

“มันก็เหมือนๆ กัน เพียงแต่เปลี่ยนจากเกมมาเล่นกับเงินแทน” Pal กล่าว
ทั้ง Pal และ Hayes ต่างเห็นพ้องตรงกันว่า กระแสความสนใจที่อยู่ในเหรียญมีมคอยน์จะยังคงดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง นำโดยเหรียญมีมคอยน์อย่าง dogwifhat (WIF) ที่มีกำหนดฉายบนจอภาพที่งานเทศกาลดนตรี Las Vegas Sphere ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
อย่างไรก็ตามผู้บริหารในอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี่บางรายได้ออกมาโต้แย้งว่า ยังมีความเสี่ยงนับไม่ถ้วนที่มาพร้อมกับเหรียญมีมคอยน์เหล่านี้
Franklin Templeton บริษัทด้านการลงทุนในสหรัฐอเมริกาได้ออกมาโพสต์ว่า มีมคอยน์อาจเป็นโอกาสในการทำกำไรอย่างรวดเร็ว แต่มันก็มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง เนื่องจากมันไม่มีมูลค่าพื้นฐานที่แท้จริงมารองรับ
ส่วน Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ก็ออกมาโพสต์บนบล็อกเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ว่าเขาเองก็ไม่สนใจมีมคอยน์ อย่างไรก็ตามเขาขอให้นักลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี และ นักพัฒนามีมคอยน์ ช่วยคิดค้นวิธีการที่ทำให้โทเคนเหล่านี้มีประโยชน์ มากกว่าที่จะออกมาต่อว่ากลุ่มนักเทรดที่ซื้อขายและทำกำไรจากพวกมัน
“ผมให้ความสำคัญกับความต้องการของผู้คนที่อยากจะสนุกสนานและผมก็อยากให้พื้นที่คริปโตเคอร์เรนซี่เลือกที่จะทำตามีความต้องการของคนส่วนใหญ่มากกว่าที่จะต่อต้านมัน” Buterin เขียนในบล็อก
แม้มีมคอยน์มันจะมีความเสี่ยง แต่มันก็ถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด ในช่วงเดือนที่ผ่านมา อ้างอิงตามข้อมูลจาก CoinGecko

หมวดหมู่เหรียญมีมคอยน์ที่มีการซื้อขายมากที่สุดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มา: CoinGecko

ที่มา: cointelegraph