<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

CEO ของ Polygon มองข้าม Layer 3 ชี้ ! ไม่มีความจำเป็นต่อเครือข่าย Ethereum

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Marc Boiron– CEO ของ Polygon Labs ได้ออกมาแสดงความเห็นในเชิงลบ ต่อเครือข่ายเลเยอร์ 3 โดยตั้งคำถามถึงความจำเป็นและผลกระทบของโซลูชันเหล่านี้ในการปรับขนาดของเครือข่าย Ethereum 

ซีอีโอ Polygon กล่าวโจมตีเครือข่าย Layer 3 โดยอ้างว่า พวกมันลดคุณค่าของ Ethereum

ในระหว่างการสนทนาที่ดุเดือดบนแพลตฟอร์ม X นาย Marc Boiron อ้างว่าเครือข่ายเลเยอร์ 3 เหล่านี้ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับมูลค่าของ Ethereum โดยเขากล่าวโจมตีเครือข่าย Layer 3 พร้อมอ้างว่า เป้าหมายหลักของ L3 คือการลดคุณค่าของ ETH และ Layer 2 ที่เป็นรากฐานของ Layer 3

ดังนั้น Marc Boiron เชื่อว่า Layer 3 ไม่จำเป็นสำหรับการปรับขนาดของเครือข่าย Ethereum  

Polygon Labs จึงประกาศว่า ทีมนักพัฒนาจะไม่ดำเนินการใดๆ บนเครือข่ายของ Layer 3 

หากพูดถึงโซลูชันของ Layer 2 (L2) ให้เข้าใจง่าย ๆ คือ Layer 2 ทางด่วน บนระบบบล็อกเชนหลัก (Layer 1) ที่ช่วยแก้ปัญหา เครือข่ายแออัด โดยทำหน้าที่แบ่งเบาภาระการประมวลผลธุรกรรมออกจากบล็อกเชนหลัก

ในทางกลับกัน เครือข่าย Layer 3 (L3)  ก็มีข้อดีตรงที่มัน รับประกันการเชื่อมต่อข้ามเชน (cross-chain) ระหว่างโปรโตคอลต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น L3 อาจจะรองรับการสื่อสารระหว่างเครือข่ายเลเยอร์ 1 และเลเยอร์ 2 ได้อีกด้วย

ตามที่ CEO ของ Polygon กล่าวก็คือ Ethereum จะแทบไม่มีมูลค่าเลย หาก L3 ทั้งหมดถูกย้ายไปอยู่บน L2 เพราะผลที่ตามมาคือ ความปลอดภัยของ Ethereum จะถูกบั่นทอนและทำให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้น

ต่อมา Marc Boiron ได้เน้นย้ำถึงภัยอันตรายและผลกระทบที่เลเยอร์ 3 เหล่านี้อาจส่งผลต่อการลดมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลอย่างรุนแรง

โดยเขาชี้ว่า “ถ้าหาก Ethereum ไม่ได้รับค่าธรรมเนียมใดๆ และไม่มีโอกาสที่จะได้รับค่าธรรมเนียมอื่นใดเลย นอกจากค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อยจากเลเยอร์ 2 มูลค่าของ ETH ก็จะลดลง”

นอกจากนั้น Marc Boiron ยังชี้ให้เห็นว่ามูลค่าของ ETH จะลดลงอย่างเรื่อยๆ เนื่องจากมันไม่มีอนาคตทางเศรษฐกิจ สิ่งนี้จะส่งผลให้ความต้องการถือครอง ETH และการเข้าร่วมเป็นผู้ตรวจสอบ (validator) เพื่อรักษาเครือข่ายลดลงตามไปด้วย

ที่มา:bitcoinist