<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน ยืนยัน Stablecoins มีศักยภาพและมีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้จริง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หนึ่งในข้อถกเถียงที่มีมาอย่างยาวนานมากที่สุดในตลาดสกุลเงินดิจิทัลก็คือ เหรียญ Stablecoin ที่ผูกกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ นั้นมีศักยภาพหรือมีมูลค่าเทียบเท่ากับเงินที่ตรึงเอาไว้จริงหรือไม่

และดูเหมือนว่า Howard Lutnick ซีอีโอของ Cantor Fitzgerald บริษัทผู้ให้บริการทางการเงินสัญชาติสหรัฐฯ จะได้ออกมายืนยันว่า Stablecoin เหล่านี้มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจมากพอ และสามารถเป็นพื้นฐานให้กับเศรษฐกิจของประเทศได้ ในการประชุม Chainalysis Conference เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

ตามรายงานจาก Bloomberg Lutnick ได้ออกมายอมรับว่าตัวเขาเป็นแฟนตัวยงของเหรียญ Stablecoin อย่าง Tether และ Circle พร้อมกับแสดงความมั่นใจว่าเหรียญเหล่านี้จะเข้ามาช่วงขับเคลื่อนความต้องการธนบัตรสหรัฐฯ ที่มากขึ้นได้โดยไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงเชิงระบบต่อโลกการเงิน

และถ้าหากรัฐบาลสหรัฐฯ สามารถเพิ่มอำนาจให้กับเงินของพวกเขาได้มากขึ้น อาจช่วงทำให้ประเทศสามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขขาดดุลจำนวนมาก กู้ยืมในอัตราที่ต่ำกว่าประเทศอื่นๆ และกำหนดมาตรการคว่ำบาตรให้กับประเทศศัตรู

โดยในขณะที่เขียนบทความอยู่นี้ Tether ( USDT) ซึ่งเป็น Stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้มีมูลค่าตลาดอยู่มากถึง 1.07 แสนล้านดอลลาร์ ในขณะที่ USDC ของ Circle ที่เป็นอันดับสองก็มีมูลค่าตลาดกว่า 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก CoinGecko

ซึ่งสาเหตุที่นักลงทุนคริปโตใช้ Stablecoin กันอย่างกว้างขวางนั้น มีสาเหตุมาจากการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่ง่าย และสามารถเป็นหลักประกันในการซื้อขายอนุพันธ์ได้ รวมถึงสินทรัพย์ดังกล่าวยังได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากธนาคารกลางสหรัฐฯ อีกด้วย

ทว่าในเดือนพฤษภาคม 2022 ความมั่นใจต่อนักลงทุนที่มีต่อ Stablecoin เริ่มสั่นคลอนหลังจากเหตุการณ์ UST ซึ่งเป็น Stablecoin แบบอัลกอริธึมของ Terra ได้พังทลายลง ส่งผลให้บริษัทอื่นๆ โดนตรวจสอบจำนวนมาก ทั้งนี้ Lutnick ยืนยันว่า Tether มีเงินดอลลาร์สนับสนุน USDT อยู่จริง

อย่างไรก็ตาม Lutnick ก็ได้ออกมายืนยันว่าตัวเขาไม่ชอบสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) มากเท่าไรนัก และได้กล่าวในวันเดียวกันว่า รัฐบาลจีนอาจมองว่าดอลลาร์ดิจิทัลที่มีศักยภาพเป็นกระเป๋าเงินสอดแนมประเทศอเมริกาได้

ที่มา: Coindesk