ท่ามกลางความคึกคักของโลกการลงทุนคริปโต นักลงทุนต่างคาดหวังว่า Dogecoin จะไปถึง 1 ดอลลาร์และ Polygon จะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม โปรเจค BlockDAG ได้ดึงดูดสายตานักลงทุนไว้ โดยแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมแห่งอนาคตและวิสัยทัศน์ที่ก้าวหน้า
ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลนี้ โปรเจค BlockDAG ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี DAG และตั้งเป้าที่จะเป็น Top 10 ในตลาดคริปโต ด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น ความเข้ากันได้ของ EVM และความสนใจจากนักลงทุนที่ทำให้ระดมเงินทุนได้ถึง 21 ล้านดอลลาร์ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ROI ของโปรเจคนี้จะสูงถึง 30,000 เท่า โดยการเปิดตัวทีเซอร์ Moonshot อันน่าทึ่งและการเปิดตัวอย่างหรูหราที่ Las Vegas Sphere ทำให้นักวิเคราะห์ได้ออกมาวิเคราะห์ถึงศักยภาพของโปรเจคดังกล่าวเทียบกับ Dogecoin และ Polygon
Dogecoin จะไปถึง 1 ดอลลาร์ได้หรือไม่?
Dogecoin ซึ่งเป็นเหรียญมีมชื่อดังที่เป็นที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คนได้ทำให้นักลงทุนต่างคาดหวังว่ามันจะไปถึง 1 ดอลลาร์ โดยล่าสุดได้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยประมาณ 2.25% และมีมูลค่าซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 0.16 ดอลลาร์ นักเทรดคริปโตที่ใช้ชื่อว่า Rekt Capital ได้กล่าวว่า Dogecoin ได้เปรียบที่มันเคยผ่านวงจรของตลาดคริปโตมาแล้ว แม้ว่ามันจะไม่สามารถสร้างกำไรระยะสั้นได้เทียบเท่าคู่แข่งอย่าง PEPE และ Shiba Inu ก็ตาม
การก้าวผ่านวงจรตลาดคริปโตและการมี Elon Musk หนุนหลังทำให้หลายคนเชื่อว่ามูลค่าของ Dogecoin จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ของสินทรัพย์ชนิดนี้ทำให้พบว่า Dogecoin จำเป็นที่จะต้องทะลุแนวต้านที่ 0.1633 ดอลลาร์เพื่อให้ไปต่อได้ในอนาคต
สัญญาณที่ดีสำหรับ MATIC
Polygon หรือเหรียญ MATIC ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งแม้ว่าจะต้องเจอกับสภาพตลาดคริปโตที่ผันผวน โดยมันสามารถยืนที่ราคา 0.72 ดอลลาร์ได้แม้ว่าจะเจอสภาพตลาดเลวร้าย ความแข็งแกร่งนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเป้าถัดไปของมันจะอยู่ที่ 0.81 ดอลลาร์ ซึ่งนี่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่จะ HODL ของนักลงทุนแม้ว่าตลาดจะมีการปรับฐานเมื่อเร็ว ๆ นี้ ความเชื่อมั่นนี้ได้แผ่ขยายไปยังตลาดฟิวเจอร์ โดย Funding Rate ของสินทรัพย์ชนิดนี้มีค่าติดลบ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้อาจผลักดันให้ Polygon ฟื้นตัวจนพุ่งทะลุ All-Time High ก่อนหน้านี้
ความเข้ากันได้ของ Ethereum ของ BlockDAG และปริมาณธุรกรรมที่สูงถึง 10,000-15,000 ต่อวินาที
โปรเจค BlockDAG ได้สร้างความโดดเด่นบนตลาดคริปโต โดยได้มีนวัตกรรมที่ผสมผสานระหว่างการรักษาความปลอดภัยของบล็อกเชนเข้ากับความเร็วของ Directed Acyclic Graph (DAG) ซึ่งถือเป็นโซลูชันที่ทำลายกำแพงขีดจำกัดของบล็อกเชน ด้วยปริมาณธุรกรรมที่สูงถึง 10,000-15,000 ต่อวินาทีและค่าธรรมเนียมที่ลดลงอย่างมาก ทำให้โปรเจค BlockDAG ดึงดูดผู้ใช้งานจากวงกว้าง ซึ่งเห็นได้จากยอดขายเหรียญที่พุ่งสูงถึง 8.1 พันล้าน BDAG และเงินระดมทุนที่สูงถึง 21 ล้านดอลลาร์
ตามที่ระบุไว้โดย DAGPaper หนึ่งในคุณสมบัติเด่นของเครือข่าย BlockDAG ก็คือสามารถทำงานร่วมกับ Ethereum Virtual Machine (EVM) ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาปรับใช้ Smart Contract บน Ethereum ที่มีอยู่ได้ ซึ่งจะช่วยเร่งการพัฒนาโปรเจคต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยความเข้ากันได้นี้จะทำให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงเครื่องมือ และทรัพยากรต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้ เครื่องมือหลายอย่างจาก Ethereum รวมถึง Web3 และ MetaMask ยังทำงานร่วมกับ BlockDAG ได้อย่างราบรื่น สิ่งนี้ทำให้นักพัฒนาสามารถความประโยชน์จากเทคโนโลยีและฟีเจอร์ความปลอดภัยที่มีความน่าเชื่อถือจาก Ethereum ได้
การเปิดตัวโปรเจคเมื่อเร็ว ๆ ที่กลางแยกชิบูย่าและกลาง Las Vegas Sphere ทำให้เครือข่ายดังกล่าวได้รับความสนใจจากทั่วโลก และทำให้หลายคนคิดว่ามันจะมี ROI เพิ่มขึ้นถึง 30,000 เท่า
BlockDAG คือโปรเจคคริปโตที่ดีที่สุดในปี 2024
ในขณะที่ Dogecoin และ Polygon ต่างมีข้อมูลในฐานะที่มีความมั่นคงในตลาดคริปโต ความก้าวหน้าและเทคโนโลยีต่าง ๆ ของ BlockDAG ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ความเข้ากันได้กับ EVM รวมถึงทีเซอร์ล่าสุด ทำให้โปรเจคนี้สามารถระดมทุนได้ถึง 21 ล้านดอลลาร์ และมีเป้า ROI ถึง 30,000 เท่า โดยการ Presale มีราคาอยู่ที่ 0.006 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ซึ่งนี่จะทำให้นักลงทุนสามารถทำเงินจาก 150 ดอลลาร์ไป 1,250 ดอลลาร์ได้ในการ Presale ครั้งที่ 45
เข้าร่วม BlockDAG ได้แล้วที่:
Website: https://blockdag.network
Presale: https://purchase.blockdag.network
Telegram: https://t.me/blockDAGnetworkOfficial
Discord: https://discord.gg/Q7BxghMVyu
บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้