การติดตามการเปลี่ยนแปลงของปริมาณ Bitcoin ที่ถือครองโดยกลุ่มผู้ถือต่างๆ ช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมของนักลงทุนและแนวโน้มราคาที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้ถือแต่ละประเภท ตั้งแต่บุคคลทั่วไปไปจนถึงสถาบันขนาดใหญ่ ล้วนมีบทบาทที่แตกต่างกันในระบบนิเวศของคริปโต และการกระทำร่วมกันของพวกเขาส่งผลต่อตลาดโดยรวมอย่างมาก
การเปลี่ยนแปลงในการกระจายสัดส่วนของ Bitcoin ระหว่างขนาดกระเป๋าเงินที่แตกต่างกันนั้น เป็นตัวชี้วัดที่ดีที่บ่งบอกถึงความรู้สึกของตลาด ตัวอย่างเช่น บุคคลทั่วไปที่สะสม Bitcoin มักบ่งบอกถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนรายย่อย
ซึ่งอาจเป็นสัญญาณขาขึ้นในหมู่บุคคลทั่วไปที่มองว่าราคาปัจจุบันน่าดึงดูดสำหรับการเข้าสู่ตลาดหรือการขยายการลงทุน สำหรับการกระจายสัดส่วนใหม่โดยสถาบันขนาดใหญ่ อาจสะท้อนถึงกลยุทธ์หรือการตอบสนองต่อตลาดที่หลากหลาย เช่น การทำกำไร การปรับสมดุลพอร์ตโฟลิโอ หรือปฏิกิริยาต่อการเปลี่ยนแปลงทางกฎระเบียบหรือเศรษฐกิจ กิจกรรมเหล่านี้มีความสำคัญ เนื่องจากอาจสะท้อนถึงมุมมองของนักลงทุนสถาบันหรือผู้มีประสบการณ์ ซึ่งสามารถเป็นสัญญาณเบื้องต้นสำหรับการเปลี่ยนแปลงตลาดที่กว้างขึ้น
ท้ังนี้สัดส่วนของ Bitcoin ในกระเป๋าเงินขนาดใหญ่ หรือได้มีการกระจายไปยังผู้ถือรายย่อยจำนวนมากขึ้น ก็จะส่งผลต่อสภาพคล่องและความผันผวนของตลาด จำนวน Bitcoin ในกระเป๋าเงินเพียงไม่กี่ใบ อาจนำไปสู่ความผันผวนที่เพิ่มขึ้นหากผู้ถือเหล่านี้ตัดสินใจที่จะย้ายเหรียญจำนวนมากในครอบครองของตน แต่ในทางกลับกัน ฐานผู้ถือรายย่อยและขนาดกลางที่กระจายตัวกันมากขึ้น จะช่วยเพิ่มเสถียรภาพและสภาพคล่องของตลาด เนื่องจากการซื้อขายมีโอกาสน้อยที่จะส่งผลกระทบต่อราคาอย่างรุนแรง
การทำความเข้าใจว่ากลุ่มตลาดใดกำลังเติบโตหรือหดตัว ล้วนให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลกระทบของปัจจัยภายนอกต่อนักลงทุนประเภทต่างๆ ข้อมูลจาก Glassnode แสดงให้เห็นว่า ปริมาณ Bitcoin ที่ถือครองโดยกลุ่มผู้ถือรายย่อยทุกประเภทเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ผู้ที่มีสัดส่วนการถือครองน้อยกว่า 0.0001 BTC ไปจนถึงผู้ที่มีสัดส่วนมากถึง 10 BTC กลุ่มผู้ถือที่มีสัดส่วนระหว่าง 0.01 – 0.1 BTC มีการเพิ่มขึ้นของสัดส่วน Bitcoin ที่ถือครองมากที่สุด กลุ่มนี้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 254,503.7 BTC เป็น 261,281.4 BTC ซึ่งเพิ่มขึ้น 6,777.7 BTC ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสุทธิที่สูงสุดในบรรดากลุ่มผู้ถือรายย่อยที่สังเกตการณ์ได้ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา
การเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนี้อาจบ่งบอกถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในหมู่คนที่อาจเรียกได้ว่าเป็นนักลงทุน “มือใหม่” ซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่เพียงแค่ลองเข้าสู่ตลาด Bitcoin แต่ยังมีศักยภาพที่จะใช้เป็นส่วนประกอบเล็กน้อยแต่มีความหมายในพอร์ตคริปโตของตน การเพิ่มขึ้นของผู้ถือเหล่านี้ทั้งหมดบ่งชี้ว่าพวกเขากำลังสะสมเหรียญ ในช่วงที่ราคา Bitcoin ลดลงจาก 73,000 ดอลลาร์เป็น 63,000 ดอลลาร์ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ช่วงเวลาเหล่านี้สนับสนุนแนวคิดที่ว่านักลงทุนเหล่านี้กำลังซื้อตอนที่ราคาตกต่ำ มองว่าราคาที่ต่ำลงเป็นจุดเข้าตลาดที่น่าสนใจ พฤติกรรมนี้เป็นลักษณะเฉพาะของนักลงทุนรายย่อยและผู้เข้าร่วมตลาดรายย่อยที่อาจมองเห็นคุณค่าในระยะยาวที่จุดราคาที่ต่ำลง
ในทางกลับกัน เจ้ามือรายใหญ่แสดงการเปลี่ยนแปลงในยอดคงเหลือแบบผสม โดยส่วนใหญ่แสดงแนวโน้มลดลงในช่วง 30 วันที่ผ่านมา กราฟแสดงอุปทานที่ถือโดยเจ้ามือรายใหญ่ จาก Glassnode มี Bitcoin คงเหลือตั้งแต่ 10 BTC ถึง 100K BTC ขึ้นไปตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม ถึง 28 เมษายน 2024
การลดลงของการถือครองในหมู่เจ้ามือรายใหญ่สามารถอธิบายได้จากหลายปัจจัย รวมถึงแรงกดดันการขายจากการไหลออกของ ETF โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผลิตภัณฑ์เช่น GBTC และผู้ขุดขายการถือครองเพื่อรับกำไรหรือชดเชยต้นทุนการดำเนินงานในสภาพแวดล้อมที่มีราคาต่ำ การเคลื่อนไหวในยอดคงเหลือขนาดใหญ่สอดคล้องกับพฤติกรรมของสถาบัน ซึ่งการปรับเปลี่ยนการถือครองอาจเป็นกลยุทธ์หรือการตอบสนองต่อสภาวะตลาด
ที่มา: bitcoininsider