นาย Jamie Dimon บิ้กบอสของ JPMorgan Chase & Co. ได้กล่าวในรัฐสภาเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า เขานั้นเป็นผู้ที่กังขาคริปโตคนหนึ่ง และเรียกเหรียญคริปโตเบอร์หนึ่งอย่าง Bitcoin และ Crypto ว่าเป็นแชร์ลูกโซ่แบบกระจายอำนาจ ภายหลังจากที่นักกฎหมายสหรัฐฯได้ถามเขาเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี่
เขายังเสริมด้วยว่า stablecoin ทรัพย์สินดิจิทัลที่พยายามตรึงมูลค่ามูลค่าอยู่กับเงินดอลลาร์หรือสกุลเงินอื่น ๆ จะไม่เป็นปัญหาหากมีกฎหมายควบคุมที่เหมาะสม แต่ บริษัท JPMorgan Chase & Co. จะยังคงเลือกใช้ระบบ blockchain กับธุรกิจต่อไป
การให้ความเห็นในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการวิพากษ์วิจารณ์ต่อต้านสกุลเงินดิจิทัลครั้งล่าสุดของนาย Jamie Dimon ผู้เคยเรียก Bitcoin ว่าเป็นแผนแชร์ลูกโซ่เมื่อปี 2017 ก่อนจะออกมากล่าวในภายหลังว่า เขารู้สึกเสียใจกับสิ่งที่พูดออกไปแบบนั้นและตระหนักได้ว่าการเงินแบบกระจายอำนาจสามารถแทนที่ธนาคารด้วยอัลกอริทึ่มได้เกิดขึ้นจริง
นาง Maxine Waters ประธานคณะกรรมการสภาบริการทางการเงิน และนาย Patrick McHenry รองประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้ทำงานร่วมกันเพื่อออกกฎหมายควบคุม stablecoin จากร่างกฎหมายฉบับล่าสุด ซึ่งการสร้าง stablecoin ที่มีการค้ำประกันกับสกุลเงินภายนอกอย่าง TerraUSD สกุลเงินที่ล้มเหลวเมื่อปีที่แล้วนั้น ถือเป็นการกระทำที่ผิดต่อหลักกฎหมาย
ในขณะที่นาย Jamie Dimon ซึ่งครั้งหนึ่งเคยวิพากษ์วิจารณ์ Bitcoin แต่ตอนนี้บริษัทของเขากลับมุ่งเน้นไปที่การใช้เทคโนโลยี blockchain เพื่อให้บริการทางการเงิน โดยผู้ใช้บริการ JPMorgan สามารถปรับใช้ blockchain และเหรียญโทเคน JPM Coin ของ JPMorgan Chase เพื่อทำธุรกรรมซื้อคืนหลักทรัพย์ระหว่างวัน ซึ่งส่งผลให้สถาบันทางการเงินอื่น ๆ สามารถให้กู้ยืมระยะสั้นโดยใช้หลักประกันที่มีความน่าเชื่อถือสูง นอกจากนี้ JPMorgan Chase & Co. ยังเป็นบริษัทรายแรกในบรรดาสถาบันธนาคารบนถนนวอลล์สตรีทที่กระโดดเข้ามามีส่วนร่วมกับพื้นที่เมตาเวิร์สอีกด้วย
ที่มา: BNN Bloomberg