คณะกรรมการดูแลเสถียรภาพทางการเงินของโลก ได้เสนอข้อกำหนดที่จะปกป้องเทคโนโลยีคริปโต

คณะกรรมการดูแลเสถียรภาพทางการเงินหรือ FSB ซึ่งเป็นองค์กรที่ติดตามดูแล เสถียรภาพของระบบการเงินของโลกได้กฏระเบียบคริปโตที่เรียกร้องให้มีการตรากฏหมายที่เท่าเทียมกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม FSB ได้แนะนำว่า กฏระเบียบของคริปโตควรมีความครอบคลุมและไปในทิศทางเดียวกันในทุกเขตอำนาจศาล และมีเป้าหมายที่จะปกป้องเทคโนโลยีของคริปโตด้วยเช่นกัน

ในเวลาเดียวกันทาง FSB บอกว่ากฏหมายควรมุ่งเน้นไปที่การสร้างเทคโนโลยีและนำไปปรับใช้กับระบบการเงินแบบดั้งเดิม

“ข้อกำหนดที่ดีควรมั่นใจว่าคริปโตนั้นจะอยู่ภายใต้กฏระเบียบที่ครอบคลุม และเหมาะสมกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น และในขณะเดียวกันก็ปกป้องเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังคริปโต โดยกฏระเบียบดังกล่าวควรมีผลไม่ต่างกับระบบการเงินแบบดั้งเดิม”

ข้อบังคับของ Stablecoin

หน่วยงานได้แนะนำให้ควบคุม Stablecoin โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากล่มสลายของโปรเจค Terra ที่ทำให้หน่วยงานหันมาเพ่งเล็ง Stablecoin มากขึ้น โดยในกรอบกำกับดูแลได้บอกว่า ผู้ที่ออกนโยบายควรให้ความมั่นใจว่าผู้ออก Stablecoin จะต้องทำให้สินทรัพย์ไม่เกิดความล้มเหลว โดยทาง FSB ได้ออกมาเสริมว่า

“การพึ่งพา Algorithms และการ Arbitrage ไม่ใช่กลกลการรักษาเสถียรภาพที่มีประสิทธิภาพ”

หลังจากปล่อบกรอบกำกับดูแล ทางสาธารณชนสามารถร่วมมาออกแบบได้ภายในวันที่ 15 ธันวาคม โดยทาง FSB ได้บอกว่าเป้าหมายว่า เป้าหมายที่ทำแบบนี้เพื่อให้ทุกอย่างมีความสอดคล้องกันในกฏระเบียบ

เพิ่มแรงกดดันในการควบคุมคริปโต

FSB ได้เร่งเรียกร้องให้มีกฏระเบียบคริปโตทั่วโลก และเรียกร้องให้เขตอำนาจศาลต่าง ๆ ร่วมมือกันในการออกแบบกฏระเบียบต่าง ๆ โดยทาง FSB ในออกมาเรียกร้องในช่วงที่มีการปรับฐานของตลาดคริปโตในปี 2022

สื่อ Finbold รายงานว่า FSB บอกว่า Cryptocurrency เป็น Store of Valueที่จับต้องไม่ได้ ดังนั้นมันจึงจำเป็นที่จะต้องมีข้อกำหนดที่แข็งแกร่ง

เป็นที่น่าสังเกตว่าแต่ละเขตอำนาจศาลกำลังเปิดตัวกฏระเบียบคริปโตที่ต่างกัน โดยในตอนนี้ทางสหรัฐอเมริกาและทางสหภาพยุโรปก็ได้เริ่มออกมาเคลื่อนไหวแล้ว

เมื่อเร็ว ๆ นี้ทางสหภาพยุโรปได้ผ่านกฏหมาย Markets in Crypto-Assets หรือ MiCA ซึ่งเป็นกฏหมายที่ดูแลเกี่ยวกับ Cryptocurrency

Source : Finbold