ตามรายงานจาก Santiment แพลตฟอร์มวิเคราะห์ความเชื่อมั่นของตลาด Crypto ชี้ให้เห็นถึงข้อมูลกิจกรรมในตลาดที่น่าตกใจประการหนึ่งว่า นับตั้งแต่วันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา เจ้ามือ Bitcoin (BTC) ได้กวาดซื้อ Bitcoin ไปเป็นจำนวนมากถึง 46,173 BTC หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 929 ล้านดอลลาร์
กระเป๋าเงินของเจ้ามือที่ถือ Bitcoin อยู่ที่ระหว่าง 100 ถึง 10,000 BTC ในช่วงตลาดขาลงนั้นเป็น “สิ่งที่หาดูได้ยาก” ซึ่งตลาดในปี 2022 แสวดงให้แนวทางการสะสม BTC ของวาฬลดลงใกล้เคียงกับการถือครอง USDT ซึ่งเป็นเหรียญ Stablecoin ที่ตรึงมูลค่าเงินดอลลาร์
สถานการณ์นี้สัมพันธ์กันกับมูลค่าของ BTC ที่ลดลงเป็นเวลา 11 เดือน โดย Santiment ชี้ให้เห็นว่า มูลค่าของ Bitcoin ที่วาฬถือในช่วงปลายเดือนกันยายนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 29 เดือน และอยู่ที่ 45.72% ของอุปทานหมุนเวียน BTC ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่ไม่สามารถควบคุมได้
แนวโน้มการสะสมล่าสุดเป็นการบ่งชี้เป็นนัย ๆ แล้วว่า ตลาด BTC อาจเดินทางมาถึงจุดต่ำสุดแล้วและเตรียมพร้อมที่จะกลับตัวไปสู่ช่วงขาขึ้นในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจาก BTC พยายามดิ้นรนเพื่อกลับไปที่ราคา 20,000 ดอลลาร์ โดยในขณะที่เขียน BTC มีราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 19,524 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.45% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวของราคา BTC ครั้งล่าสุดดูเหมือนว่าจะเป็นผลมาจากการเก็งกำไร เนื่องจากนักเทรดหลายคนต่างคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางอื่น ๆ ทั่วโลกอาจถูกบังคับผ่อนปรนนโยบายลงในไม่ช้า
แม้ว่าธนาคารต่าง ๆ พยายามสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นโดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนรวมถึง Robert Kiyosaki ผู้เขียนหนังสือทางการเงินที่ขายดีอย่างพ่อรวยสอนลูก กล่าวว่าสภาวะถดถอยที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นการบังคับให้เกิดจุดเปลี่ยนที่จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดเก็บสินทรัพย์มีมูลค่าสูง เช่น BTC และโลหะมีค่า
Kiyosaki เชื่อว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะร่วงเมื่อ Fed เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย และในทำนองเดียวกัน Daniel Kostecki นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของบริษัทการลงทุน Conotoxia ก็กล่าวกับ Forbes ด้วยว่าแม้ Fed จะไม่ระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ตลาด Crypto อาจกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้งเมื่อดอกเบี้ยขึ้นไปถึงจุดพีคทที่ประมาณ 4.7% ซึ่งเป็นจุดสูงสุดที่เขาคาดการณ์ไว้ โดย Kostecki คาดการณ์ว่าจุดสูงสุดนี้อาจเกิดขึ้นประมาณช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2023
“หากนั่นเป็นจุดสูงสุด บางทีฤดูใบไม้ผลิปี 2023 อาจทำให้ตลาด Crypto ฟื้นตัวกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง เพราะหลายคนคาดหวังให้สหรัฐฯ ปรับลดดอกเบี้ยจากการที่อัตราเงินเฟ้อลดลง”
ที่มา: zycrypto