<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

บราวเซอร์ Web3 คืออะไรและมันทำงานอย่างไร?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

โปรแกรมซอฟต์แวร์ที่เรียกว่าบริการเว็บนั้นช่วยให้สามารถสื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ อย่างไรก็ตาม บริการเว็บไม่มีอะไรใหม่และโดยทั่วไปจะอยู่ในรูปแบบของ Application Programming Interface (API) เว็บคือชุดของสื่อไฮเปอร์เท็กซ์ที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจเข้าถึงได้ทางออนไลน์ 

ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้ตรวจสอบหน้าเว็บที่อาจมีมัลติมีเดียโดยใช้เว็บเบราว์เซอร์และใช้ไฮเปอร์ลิงก์เพื่อย้ายไปมาระหว่างหน้าเหล่านั้น

Tim Berners-Lee ซึ่งทำงานให้กับ CERN องค์การ European Organisation for Nuclear Research ในเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นผู้คิดค้นเว็บขึ้นมาในปี 1989 นับแต่นั้นมา Berners-Lee ได้กำกับดูแลการพัฒนามาตรฐานเว็บอย่างจริงจังและได้ผลักดันให้มีการสร้าง Semantic Web หรือสิ่งที่เรียกว่า Web3

คำว่า “Web3” นั้นถูกใช้เพื่ออธิบายลักษณะวิวัฒนาการที่หลากหลายของการโต้ตอบและการใช้งานเว็บในทางต่าง ๆ ประกอบด้วยการสร้างเว็บเชิงพื้นที่, การใช้เครื่องมือ AI และทำให้เนื้อหาพร้อมใช้งานผ่านแอพที่ไม่ใช่เบราว์เซอร์หรือเบราว์เซอร์ Web3 จำนวนมาก เบราว์เซอร์ Web3 จะเป็นการแนะนำผู้ใช้สู่โลกใหม่ของ DApps และเศรษฐกิจแบบดิจิทัล

โดยบทความนี้จะพูดถึงพื้นฐานของ Web3, ฟีเจอร์หลัก ๆ ของเบราว์เซอร์ Web3, วิธีการทำงานของเบราว์เซอร์ Web3 และวิธีใช้งาน

เบราว์เซอร์ Web3 คืออะไร?

เบราว์เซอร์ Web3 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับ DApps ซึ่งสร้างขึ้นบนเทคโนโลยี บล็อกเชน เทคโนโลยี Web3 เช่น บัญชีแยกประเภท, AI Metaverse และอื่น ๆ นั้นมีเป้าหมายเพื่อสร้างอินเทอร์เน็ตยุคสมัยใหม่ ซึ่งทุกคนสามารถเข้าถึงได้และยื่นผลประโยชน์ให้แก่กันได้

  • ฟีเจอร์หลักของเบราว์เซอร์ Web3 ได้แก่:
  • ระบบนิเวศที่ไม่แปรเปลี่ยนสภาพไปกล่าวคือเชื่อว่าผู้คนจะดาวน์โหลดผลิตภัณฑ์ดิจิทัลตามที่ผู้สร้างตั้งใจไว้
  • เพิ่มความโปร่งใสและความปลอดภัย
  • ประสิทธิภาพการท่องเว็บที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
  • ไม่เปิดเผยตัวตนของผู้ใช้และการรักษาความลับโดยสมบูรณ์
  • รวม cryptocurrency wallet เข้ากับ blockchain ที่หลากหลาย
  • ควบคุมเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์เนื่องจากมีความ decentralized

นอกจากนี้ตัวของ search engines ยังสามารถค้นหาข้อความที่มีความเป็นเนื้อหาขนาดเล็กที่ติดแท็กโดยอัตโนมัติใน Web3 ซึ่งจะเป็นการเรียกให้แปลงเนื้อหาขนาดใหญ่จาก Web1 จำนวนมากเป็นเนื้อหาขนาดเล็ก เนื่องจากการติดแท็กสามารถขจัดความไม่แน่นอนของเนื้อหาที่เกิดจากคำพ้องความหมายและคำพ้องรูปพ้องเสียงต่าง ๆ ในกระบวนการค้นหาได้ ผลลัพธ์สุดท้ายอาจนำมาซึ่งการค้นหาที่มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น

เบราว์เซอร์ Web3 ทำงานอย่างไร

โลกของ DApps และเศรษฐกิจดิจิทัลนั้นเอื้อโดยเบราว์เซอร์ Web3 ใช้งานได้ด้วยการใช้ประโยชน์จาก cryptograhy และบล็อกเชนสาธารณะ , เบราว์เซอร์ Web3 จะควบคุมผู้ใช้โดยกำจัดสถาบันที่รวมศูนย์ นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังจะได้รับรางวัลทางการเงินสำหรับการโต้ตอบกับเนื้อหาหรือดูโฆษณาที่คัดเลือกมาเป็นอย่างดีบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีความ decentralized และบนเบราว์เซอร์ Web3

แต่เบราว์เซอร์ Web3 จะเปลี่ยนประสบการณ์ออนไลน์ได้อย่างไร? เบราว์เซอร์ Web3 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ฟังก์ชันมาตรฐานของเบราว์เซอร์ได้ พวกมันเป็น DApp โดยพื้นฐานที่อนุญาตให้ผู้ใช้รักษาความเป็นเจ้าของข้อมูลและแชร์รายได้

แล้วแบบนี้ Chrome เป็นเบราว์เซอร์ Web3 หรือไม่? คำตอบคือไม่ Chrome เป็นเบราว์เซอร์ Web2 เช่นเดียวกันกับ Firefox และ Safari อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชัน Web3 ด้วยเบราว์เซอร์ Web2 โดยใช้ crypto wallet Web3 เช่น MetaMask

วิธีการใช้เบราว์เซอร์ Web3?

Web3 wallet นั้นสามารถผนวกรวมเข้ากับเว็บเบราว์เซอร์แบบดั้งเดิม โดยการทำงานของเบราว์เซอร์ DApp จะอนุญาตให้เข้าถึง DApp ได้อย่างยืดหยุ่นโดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากตัวกลางอื่น ๆ ในขณะที่ยังคงความเป็นเจ้าของทรัพย์สินของตนเองโดยสมบูรณ์ 

นอกจากนี้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงระบบเศรษฐกิจของ Web3 ได้โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนยืนยันตัวตน (KYC) หรือป้องกันการฟอกเงิน (AML)

มากไปกว่านั้นสินทรัพย์ crypto ยังสามารถจัดเก็บและจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้ Web3 wallet อย่างไรก็ตาม หากใคร seed phrase หายไปแล้วล่ะก็พวกเขาอาจสูญเสียเงินไปเลย ซึ่งจะแตกต่างจาก custodial wallets 

ที่มา : Cointelegraph