Charles Hoskinson ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม Cardano (ADA) ได้อภิปรายเจาะลึกเกี่ยวกับระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับ Crypto และได้แบ่งปันมุมมองของเขาว่าทางการควรมีมาตรการกับสิ่งนี้อย่างไร
ระหว่างรายการพอตแคสต์วิดีโอเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม Hoskinson กล่าวว่า การเติบโตของอุตสาหกรรม Crypto จำเป็นจะต้องมีการกำกับดูแลที่คำนึงถึงประโยชน์ของสินทรัพย์ดิจิทัลต่อคนหมู่มาก
“จำเป็นต้องมีการกำกับดูแลที่ยอมรับการมีอยู่ของ Crypto โดยเป็นกฎระเบียบที่มองว่า Crypto เป็นสิ่งที่ดีและทำให้ผู้คนมีอิสระ ดังนั้นนี่คือเวลาที่จะคิดหาวิธีสร้างสิ่งที่จะทำให้เราทุกคนสามารถอยู่ร่วมกัน เติบโต และเป็นการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ที่เราสามารถทำได้ในตอนนี้” เขากล่าว
Hoskinson กล่าวเสริมว่าด้วยกฎระเบียบของ Crypto ที่มีศักยภาพจะกลายเป็นระบบปฏิบัติการทางการเงินที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน อย่างเช่นการแก้ปัญหาที่ธนาคารที่สามารถแก้ไขได้
“ผมต้องการให้ Cardano และ Crypto ทั่วไป กลายเป็นระบบปฏิบัติการทางการเงินของโลก และความหลงใหลในชีวิตของผมคือ การช่วยให้ตัวกลางที่ไม่ใช่ธนาคารสามารถเข้าถึงโอกาสหรือผลิตภัณฑ์ที่ปกติเราไม่สามารถเข้าถึงได้ เพื่อทำให้ระบบเศรษฐกิจที่ไม่มีธนาคารภายใต้กฎระเบียบนั้นมีอำนาจเป็นของตนเอง และมีความเป็นสากลโดยธรรมชาติในท้ายที่สุด อีกทั้งมีการรับประกันสิทธิมนุษยชน สิทธิและเสรีภาพในการสมาคม การค้า รวมถึงการแสดงออก” Hoskinson กล่าว
ในขณะเดียวกัน Hoskinson ได้ชี้ให้เห็นว่า สหรัฐอเมริกากำลังดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องเกี่ยวกับกฎระเบียบของ Crypto และคาดการณ์ว่ากฎหมายที่ครอบคลุมส่วนนี้อาจออกมาในปีหน้า ทั้งนี้เขาได้ชี้ให้เห็นว่าคำสั่งของประธานาธิบดีเกี่ยวกับการพัฒนา Crypto อาจรวมเข้ากับข้อเสนอทางกฎหมายอื่น ๆ
นอกจากนี้ Hoskinson ยังมีความเห็นว่า กฎระเบียบที่เขาคาดหวังอาจผ่านร่างกฎหมายของ 2 พรรคในสหรัฐฯ เนื่องจากรัฐสภาคองเกรสกำลังทบทวนร่างกฎหมายหลายฉบับเพื่อเป็นแนวทางของภาคสินทรัพย์ดิจิทัล
อันที่จริง Hoskinson ยืนยันว่า เขากำลังทำงานร่วมกับผู้คนที่เป็นศูนย์กลางของการร่างข้อบังคับ รวมทั้งตั้งข้อสังเกตว่าทั้งฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ และฝ่ายบริหารได้แสดงความต้องการที่จะควบคุมภาคส่วนนี้ด้วยความปรารถนาดี
ตามที่รายงานของ Finbold ทาง Hoskinson ได้บอกกับรัฐสภาคองเกรสก่อนหน้านี้ว่า กฎระเบียบเกี่ยวกับ Crypto อาจสามารถแก้ไขได้ด้วยระบบการรับรองตนเอง ซึ่งเขาได้อ้างอิงถึงการทำงานของ Internal Revenue Service (IRS)
ที่มา: finbold