Meta บริษัทแม่ของ Facebook ประกาศว่าจะปลดพนักงานออกมากกว่า 13% ของจำนวนพนักงานปัจจุบันโดยถือเป็นการเลิกจ้างครั้งใหญ่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบริษัท
ในจดหมายถึงพนักงานของเขา Mark Zuckerberg CEO ของ Meta ประกาศเลิกจ้างและย้ำว่าการหยุดจ้างงานซึ่งเริ่มเมื่อต้นปีนี้ จะขยายไปถึงไตรมาสแรกของปีงบประมาณปีหน้า
ตามคำแถลงที่เผยแพร่ไป Meta ได้เลิกจ้างพนักงานประมาณ 11,000 ตำแหน่งตามข่าวลือการเลิกจ้างที่เกิดขึ้นล่าสุดในวันที่ 6 พฤศจิกายน ผ่านการรายงานของ Wall Street Journal จากแหล่งข่าววงใน
Zuckerberg กล่าวว่าเขาต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ในการเลิกจ้าง ซึ่งเกิดจากต้นทุนที่สูงขึ้นและราคาหุ้นที่ตกต่ำลงเมื่อเร็วๆ นี้
“ผมเข้าใจแล้ว ผมจะรับผิดชอบเอง”
อีกทั้ง CEO ยังกล่าวอีกว่าการลงทุนมากเกินไปในบางพื้นที่พร้อมกับ “การชะลอตัวของเศรษฐกิจมหภาค การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น และการสูญเสียสัญญาโฆษณา” นำไปสู่รายได้ที่ต่ำกว่าที่คาดไว้
ข่าวนี้เกิดขึ้นหลังจากรายงานที่เผยแพร่โดย Meta เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ซึ่งเปิดเผยการสูญเสียหลายพันล้านครั้งในสาขาการพัฒนา Metaverse Reality Labs ซึ่งเป็นแผนก R&D ของ Metaverse ขาดทุน 3.67 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 3
ในไตรมาสเดียวกัน ธุรกิจมีรายได้เพียง 285 ล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งยังมีข่าวของผู้ถือหุ้นของบริษัทที่ตกตะลึงและทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้ม Metaverse ของ Meta
ทั้งนี้ Meta ไม่ใช่บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียวที่ต้องผ่านการเลิกจ้างจำนวนมากเนื่องจากที่ผ่านมา Coinbase, Robinhood รวมถึง Twitter บริษัทโซเชียลมีเดียก็ถูกเลิกจ้างหลายครั้ง หลังจากที่ Musk เข้าครอบครองบริษัท โดยมีข่าวลือว่าจะเลิกจ้างพนักงานเกือบ 50% ของจำนวนพนักงาน 7,500 คนของบริษัทอีกด้วย
อย่างไรก็ตามพนักงานได้ตอบโต้โดยการดำเนินคดีแบบกลุ่มกับ Musk ซึ่งกล่าวว่าเขาเพิกเฉยต่อกฎหมายที่จำกัดการเลิกจ้างจำนวนมากจากบริษัทใหญ่ ๆ โดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าอย่างน้อย 60 วัน