ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนนี้ แน่นอนว่าหลายคนคงเห็นข่าวเกี่ยวกับวิกฤตของ FTX กันมาบ้างแล้วว่าการล่มสลายของกระดานเทรดดังกล่าวได้สร้างผลกระทบมากมายเพียงไร และคงสังเกตกันได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ไม่ได้ส่งผลต่อนักเทรด Crypto เท่านั้น แต่ยังกระทบถึงนักลงทุนรวมถึงผู้เกี่ยวข้องกับ FTX และ Alameda Research ในวงกว้างอีกด้วย
สืบเนื่องจากประเด็นดังกล่าว ทางเพจให้คำแนะนำเกี่ยวกับ Crypto อย่างเพจลุงเต่า นั่งรถทุกคัน ก็ได้ออกมาโพสต์ชี้ให้เห็นถึงเหตุการณ์ที่ใกล้เคียงกับกรณีของ FTX อย่างการเสกเหรียญ FTT ขึ้นมาแล้วปล่อยโดนล้างพอร์ต เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจให้กับนักลงทุนทุกคน โดยลุงเต่าได้ยกกรณีของหุ้น MORE ของไทยขึ้นมาในโพสต์ดังกล่าว และอธิบายว่า
“มีคนเริ่มจากไปซื้อหุ้นตอนราคาหลักสตางค์ แล้วปั่นจนเป็น 3 บาท แต่แม้จะปั่นไปขนาดนั้นแล้วก็ไม่สามารถเทใส่ตลาดได้เพราะสภาพคล่องมีไม่มากพอ เพราะงั้นก็เลยเปลี่ยนเป้าไปเอาที่โบรกเกอร์แทน”
ทั้งนี้วิธีการปั่นหุ้น MORE ของบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) ลุงเต่าตั้งข้อสังเกตว่า เป็นผลมาจากการที่บริษัทนำหุ้น MORE ในมือที่ราคา 3 บาท จำนวนรวมมูลค่า 100 ล้านบาท ไปขอเครดิตวงเงินคูณ 3 เท่า จากแต่ละโบรกเกอร์ ซึ่งวิธีนี้เปรียบเสมือนว่าเรานำหุ้นตัวเองไปค้ำ Leverage 3x แต่ผู้กระทำการดังกล่าวในกรณีหุ้น MORE นั้นทำไปประมาณ 15 โบรกเกอร์ จนมีวงเงินมากถึง 4,500 ล้านบาท
หลังจากได้วงเงินจำนวนมหาศาลมาแล้ว เขาได้ใช้คำสั่งซื้อ ATO ต่อทันที กล่าวคือ เป็นราคาซื้อขาย ณ วันเปิดตลาดโดยไม่สน order buy/sell ด้วยการซื้อขายกับโบรกเกอร์แทน ซึ่งจะทำให้เขาได้เงินจากการขายไปถึง 4,500 ล้านบาท แต่จะเสียหุ้น MORE ที่ตัวเองมาค้ำไป 20% ดังนั้นจึงสรุปว่าเขาจะได้เงินจริง ๆ ประมาณ 3,600 ล้านบาท
แม้ว่าบล.ทุกแห่งจะยังสามารถเปิดให้บริการตามปกติ และธุรกรรม MORE ไม่ได้กระทบระบบทั้งหมด แต่กรณีของหุ้น MORE นี้ก็อาจทำให้โบรกเกอร์หลายรายต้องปิดตัวเองลง ทั้งนี้ลุงเต่ายังได้กล่าวเสริมด้วยว่า
“เราก็ต้องไปให้กำลังใจคณะ ตลก ละ ว่าเข้มงวดกับทางคริปโตขนาดนี้ แต่ปัญหาไปเกิดที่บ่อนไทย ปัญหา zipmex ก่อนหน้าก็ยังไม่เคลียร์ ปัญหา adminTransfer ที่ไม่ต้องมาเคลียร์ก็ดันยุ่งอยากให้มาเคลียร์ แต่คิดว่าเหมือนเดิมนะ ไม่น่าจะมีใครต้องมารับผิดชอบ”
ทางตลท. เปิดเผยว่าวันนี้จะมีการขึ้น SP กับหุ้น MORE แล้ว รวมทั้งจะมีการตรวจสอบว่าหุ้นดังกล่าวมีการชำระราคาหลักทรัพย์ตามปกติหรือไม่ ขณะเดียวกันตลท.ก็ตั้งข้อสงสัยด้วยว่ามีเหตุการณ์ไม่ปกติในการซื้อขายหุ้น MORE แต่ประเด็นนี้ยังไม่เปิดเผยแน่ชัดเนื่องจากอยู่ในระหว่างตรวจสอบ
ในขณะที่ทางตลท., หน่วยงาน DSI, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ประกาศจะเข้าตรวจสอบกรณีของหุ้น MORE พร้อมกันในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้
จากกรณีในข้างต้นจะเห็นว่าประเทศไทยก็มีเกิดเหตุการณ์คล้ายกับวิกฤต FTX เช่นกัน ดังนั้นนักเทรด Crypto และนักลงทุนจึงควรให้ทั้งสองกรณีเป็นบทเรียน และเตรียมพร้อมรับมือความเสี่ยงต่าง ๆ อยู่เสมอ
ที่มา: ลุงเต่า นั่งรถทุกคัน