<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

กูรูคริปโตไทยกล่าว ‘ถ้าวันนั้น SCB10X ซื้อ Bitkub แทนที่ไปร่วมกับ FTX คงไม่เจอหนักเท่าวันนี้’

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ท่ามกลางประเด็นฮอตฮิตร้อนแรงในอาทิตย์นี้เรียกได้ว่า ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของวิกฤตการณ์ล่มสลายครั้งใหญ่ของเว็บเทรดเบอร์สองของโลกอย่าง FTX ที่ส่งผลกระทบ Domino Effect ไปสู่บริษัทที่ร่วมลงทุนในทั่วทุกมุมของโลก

แน่นอนฝั่งของบ้านเราเอง ชุมชนคริปโตชาวไทยของเราก็ให้ความสนใจในเรื่องนี้มากเช่นกัน และมีกูรูมากมายทยอยกันออกมาพูดถึงประเด็นดังกล่าวกันอย่างหนาหู ว่าบริษัทในไทยเองก็อาจมีบริษัทที่ได้รับผลกระทบอย่างมากไม่แพ้กัน

ซึ่งหนึ่งในบริษัทของบ้านเราเองที่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวร่วมกับ FTX ก็คงต้องพูดถึงยักษ์ใหญ่การนวัตกรรมการเงินอย่าง SCB10X ที่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวร่วมทุนกันหลายต่อหลายครั้งเช่น การเชื่อมต่อสภาพคล่องเข้ากับเว็บเทรด FTX หรือแม้แต่การจับมือเป็นพันธมิตรกับแพลตฟอร์มให้กู้ยืม Blockfi บริษัทคริปโตที่เพิ่งยื่นล้มละลายไปในวันนี้

และล่าสุดทางเพจกูรูคริปโตไทยชื่อดังอย่าง ‘ลุงเต่า นั่งรถทุกคัน‘ เองก็ได้กระโดดเข้ามาร่วมวิเคราะห์เจาะลึกถึงประเด็นดังกล่าวอย่างถึงพริกถึงขิง พร้อมตั้งข้อสังเกตที่ชวนคิดว่า ‘ถ้าวันนั้น SCB10X ซื้อ Bitkub แทนที่ไปร่วมกับ FTX คงไม่เจอหนักเท่าวันนี้’

“Blockfi ประกาศล้มละลาย !!! ตอนนี้มี 2 อารมณ์ สำหรับ SCB10x วันนั้นนะ ถ้าซื้อ bitkub ไป มันน่าจะไม่หนักเท่าวันนี้เลยนะ คงไม่ต้องไปร่วมทุนพวกนี้ ให้ภาพด้านล่างมันเล่าเรื่อง ก็เห็นใจด้วยปนอื่นๆด้วย จะซวยไปถึงไหน แตกตั้งแต่ Luna ยัน FTX ต่อมา Blockfi ซื้อไปวันนั้นได้ Exchange เดียวก็คงได้ Chain ไปด้วย”

“เมื่อวานผมมีคุยกับเพื่อนว่า งง กับ FTX อยู่นะ ตอนมีเรื่องทำไม FTX ไม่ปิดถอน ถ้าปิดถอนซัก 1 อาทิตย์ เรื่องก็น่าจะเบาเทาลงได้ ซึ่งตอนนั้น Binance ก็เคยถูกแฮคแล้วกลัวเกิดเหตุการณ์นี้ยังปิดถอนเลย ให้สรุปเหตุการณ์ตามความคิดผมเองนะ คือ ที่มันไม่ทำเพราะ มันกลัวกฎหมายของ US เลยกลัวการที่กองทุน alameda จะล้ม จึงโอนเงินไปให้ใช้เล่นๆเพื่อไม่ให้ล้ม ถัดมาก็พยายามคืนเงินเฉพาะลูกค้า FTX ใน US หรือบาฮามัส พวกมันกะเอาแค่ตัวเองรอดเต็มๆเลยทำแบบนี้ ส่วนตัวเลยคิดว่าลูกค้าประเทศอื่นๆคงไม่ได้อะไรเลย ใครมีเงินฝากก็คงได้แต่ทำใจแล้ว Move on ต่อ วิกฤตครั้งนี้ก็ไม่รู้จะจบเมื่อไร”

ที่มา : เพจลุงเต่านั่งรถทุกคัน