การล่มสลายของกระดานเทรดคริปโตชั้นนำระดับโลก FTX ได้กลายเป็น “ความล้มเหลวขององค์กรขนาดใหญ่ที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา” ตามการยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อเร็ว ๆ นี้
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ต้องการให้มีการตรวจสอบอย่างอิสระเกี่ยวกับการล่มสลายของกระดานเทรด FTX ในการยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
DOJ ได้พิจารณาการล่มสลายขององค์กรคริปโตระดับโลกของ Sam Bankman-Fried แล้ว ซึ่งตอนนี้ต้องการให้ศาลล้มละลายแต่งตั้งผู้ตรวจสอบอิสระเพื่อสอบสวนการกระทำผิดที่อาจเกิดขึ้นซึ่งอาจนำไปสู่การล่มสลาย ที่ได้ยื่นฟ้องล้มละลายเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2022
“ผู้ตรวจสอบอิสระจะต้องมีสิทธิที่สามารถตรวจสอบข้อกล่าวหาสำคัญที่ร้ายแรงเกี่ยวกับการฉ้อโกง ความไม่ซื่อสัตย์ การไร้ความสามารถ การประพฤติมิชอบ และการจัดการเงินของลูกค้าที่ผิดพลาด”
Andrew R. Vara ผู้ดูแลผลประโยชน์ของ DOJ ได้กล่าวไว้ในเอกสารที่ยื่นขอคำสั่งศาลที่อนุมัติการตรวจสอบที่เป็นกลาง โดยในเอกสารเดียวกันยังได้กล่าวอีกว่าการล่มสลายของ FTX ถือเป็น “ความล้มเหลวขององค์กรขนาดใหญ่ที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา”
โดยพื้นฐานหลังหลังจากการยื่นฟ้องล้มละลายในบทที่ 11 CEO อย่าง Sam Bankman-Fried ก็ถูกแทนที่ด้วย John Jay Ray III พร้อมกับผู้จัดการคนอื่น ๆ ที่จัดการบริษัทผิดพลาดหรือมีส่วนร่วมในการฉ้อโกง
หลังจากการล่มสลายอย่างรวดเร็วของ FTX ก็ได้มีการตรวจสอบการเงินอย่างใกล้ชิดโดยนักกฎหมายเริ่มตั้งคำถามว่ากระดานเทรดมีส่วนร่วมในกิจกรรมฉ้อโกงโดยใช้เงินของลูกค้าในทางที่ผิดหรือไม่ ซึ่งไม่นานหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่ง John Jay Ray III CEO คนใหม่ของ FTX ก็ได้กล่าวในเอกสารที่ยื่นต่อศาลว่าบริษัทได้ปกปิดการใช้เงินทุนขององค์กรในทางที่ผิด ซึ่งรวมถึงการซื้อทรัพย์สินในบาฮามาสสำหรับพนักงาน
“ในอาชีพการงานของผม ผมไม่เคยเห็นความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงของการควบคุมองค์กร และการไม่มีข้อมูลทางการเงินที่น่าเชื่อถืออย่างที่เกิดขึ้นที่นี่”
สำนักงานอัยการสหรัฐฯ ในเขตทางตอนใต้ของนิวยอร์ก และทนายความจากแผนกบังคับใช้กฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ได้ส่งคำขอข้อมูลไปยังนักลงทุน crypto และบริษัทการค้าที่ทำงานร่วมกับ FTX ตามการรายงานของสำนักข่าว Bloomberg ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามการตรวจสอบจะดีกว่าการสอบสวนเนื่องจากอดีตสามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งหลังการล่มสลายของ FTX มีผลต่ออุตสาหกรรม crypto