John J. Ray III CEO บริษัท FTX คนใหม่ได้กล่าวในสภาคองเกรสเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า การล่มสลายนั้นเป็นผลมาจากการที่ FTX ไม่มีงบการเงินที่เชื่อถือได้, การปล่อยให้ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทสามารถเปลี่ยนเส้นทางการเงินของผู้ใช้บริการ และไม่มีการจัดทำเอกสารการทำธุรกรรมอย่างถูกต้อง
John J. Ray III ผู้ที่ซึ่งขึ้นมานั่งแท่นผู้นำ FTX คนล่าสุดได้ขึ้นให้การเป็นพยานต่อคณะกรรมการบริการทางการเงินของสภาในเวลา 17.00 น.ตามเวลาไทย เช่นเดียวกันกับ Sam Bankman-Fried ผู้ก่อตั้ง FTX ที่จะต้องขึ้นให้การดวยเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนที่แล้ว Sam Bankman-Fried ได้ขึ้นให้สัมภาษณ์ในการประชุม New York Times Dealbook summit โดยกล่าวว่า เขาไม่ล่วงรู้ถึงขอบเขตปัญหาของ FTX มาก่อนและกล่าวว่า แม้เขาจะพลาดพลั้ง แต่เขาไม่ได้คิดที่จะฉ้อโกงนักลงทุนแต่อย่างใด
John J. Ray III กล่าวว่า การบริหารของบริษัท FTX ถือเป็นการบริหารที่แย่ที่สุดที่เขาเคยเห็นมาตลาดชีวิตการทำงาน 40 ปี ซึ่งรวมไปถึงการเห็นการล้มละลายของบริษัท Enron ด้วย
ในคำแถลงการณ์ที่ร่างเอาไว้ที่มีการเปิดเผยโดยคณะกรรมการเมื่อช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยเขากล่าวว่า FTX ล่มสลายเพราะ “กลุ่มบุคคลที่ไม่มีประสบการณ์และไม่มีความชำนาญกลุ่มเล็ก ๆ” ที่ทำการบริหารบริษัทล้มเหลวในการดำเนินการระบบหรือควบคุมสิ่งใด ๆ ที่จำเป็นสำหรับบริษัท เพื่อที่จะได้รับความไว้วางใจจากผู้ลงทุน
ท่ามกลางความล้มเหลวทั้งหมด John J. Ray III ได้กล่าวสรุปว่า การที่คอมพิวเตอร์ของบริษัท FTX อนุญาตให้ผู้บริหารระดับสูงสามารถเข้าถึงบัญชีของผู้ใช้บริการและเบี่ยงเบนเส้นทางของสินทรัพย์เหล่าได้นั้น ทำให้บริษัท Alameda ที่เป็นบริษัทวิจัยของ FTX สามารถกู้ยืมเงินทุนจาก FTX ได้อย่างไม่จำกัด
คำให้การนี้ยังรวมไปถึงการที่ FTX ปล่อยกู้เงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์แก่บุคคลภายใน และทางบริษัทได้ทำการ “ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย” เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว โดยการเข้าซื้อกิจการของบริษัทต่าง ๆ เป็นมูลค่ากว่า 5 พันล้านดอลลาร์ซึ่ง John J. Ray III ได้กล่าวว่ามันมีมูลค่าเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น
FTX เคยเป็นหนึ่งในกระดานเทรด Crypto ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ด้วยการได้รับเงินลงทุนมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาก่อนจะล่มสลายในเดือนพฤศจิกายน การยื่นฟ้องล้มละลายสร้างความสั่นสะเทือนให้แก่ทั้งอุตสาหกรรม Crypto ในขณะที่ Sam Bankman-Fried กำลังอยู่ภายใต้การสอบสวนโดยสหรัฐฯ และต่างประเทศด้วยข้อหาละเมิดสินทรัพย์
ที่มา: CBS News