<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Riot Games อ้างว่า ‘ความชื่นชอบในเกม LoL ของ Sam Bankman-Fried กำลังทำลายภาพลักษณ์บริษัท

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Riot Games บริษัทผู้พัฒนาเกม League of Legends (LoL) กล่าวว่า ความชื่นชอบในเกมของ LoL ของ Sam Bankman-Fried กำลังทำลายภาพลักษณ์ของบริษัท 

โดยในระหว่างการฟ้องคดีล้มละลายของ FTX ทางบริษัท Riot Games ได้ขอให้ศาลยุติดีลเป็นพาร์ทเนอร์กับ FTX ที่ได้เซ็นสัญญาระยะยาวเพื่อสนับสนุนการแข่งขัน Legends Championship Series (LCS) โดยอ้างว่าดีลนี้ “ได้สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัท” และ “FTX ไม่สามารถดำเนินการตามดีลนี้ต่อไปได้ภายใต้สภาวะล้มละลาย”

ความรักในเกม LoL ของ Sam Bankman-Fried  ได้กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจ ท่ามกลางการล่มสลายของ FTX ซึ่ง Neeraj Arora ผู้ร่วมก่อตั้ง Sequoia บริษัทร่วมทุน กล่าวว่า Sam Bankman-Fried ได้เล่น LoLในระหว่างการประชุมผ่าน Zoom ครั้งแรก

Sam Bankman-Fried ไม่เคยเขินอายเมื่อพูดถึงความสนใจของเขาในเกม League of Legends เขายังได้เขียนทวีตพูดถึงเกมนี้เมื่อปีที่แล้วด้วย โดยกล่าวว่า “ผมเล่นเกมนี้มากกว่าที่คุณคิดว่าคนที่เทรดกับทำงานจะมีตารางเวลาแบบนี้ ทำไมน่ะหรอ? เพราะมันมีเพียงเหตุผลเดียวที่คนเล่นเกม LoL ต่างเห็นพ้องตรงกันว่า “ผมไม่น่าหลวมตัวมาเล่นเกมนี้เลย”

ในเวลานั้น การที่ Sam Bankman-Fried ชื่นชอบเกม League of Legends ดูเหมือนจะเป็นผลดีต่อ Riot Games ซึ่งบริษัทได้ประกาศลงนามความร่วมมือกับ FTX เป็นเวลานานถึง 7 ปีในการให้ FTX เป็นสปอนเซอร์ของงาน Legends Championship Series (LCS) แต่ล่าสุดเมื่อเขาถูกจับในข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน Riot Games ได้พยายามตัดความสัมพันธ์ทุกอย่างกับ FTX ด้วยให้เหตุผลที่ว่า การมีสปอนเซอร์เป็น FTX นั้นส่งผลต่อ “ภาพลักษณ์และชื่อเสียงที่ขึ้นอยู่กับฐานของลูกค้า”

“ภาพของ Sam Bankman-Fried ที่กำลังเล่นเกม League of Legends ได้ถูกแสดงพร้อมกับทัศนคติในการประชุมร่วมกับนักลงทุนและความไม่รับผิดชอบต่อเงินทุนของผู้ใช้บริการ” เอกสารยังกล่าวด้วยว่า “ภาพลักษณ์เหล่านี้ยังแสดงให้เห็นว่า Sam Bankman-Fried ที่มีความสนใจในเกม League of Legends นั้น มีความประมาทและเป็นเด็กไม่มีวุฒิภาวะ”

ตามเอกสารของบริษัท FTX ได้ติดค้างเงินสปอนเซอร์ Riot Games เป็นจำนวน 6.25 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ FTX ยืนยันจะยังเป็นสปอนเซอร์ให้งาน LCS ในปี 2022 และ 112.875 ล้านดอลลาร์ในปีหน้า และคาดว่าตัวเลขนี้จะ “เพิ่มมากขึ้นทุกปีจนถึงปี 2028” ทำให้มูลค่าหนี้รวมมีมูลค่ามากถึง 96 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ Riot Games ยังได้กล่าวด้วยว่า ทางบริษัทต้องการจบดีลกับ FTX เพื่อที่จะเปิดช่องให้บริษัทอื่นเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ให้กับงานนี้ในปี 2023

องค์กรเจ้าอื่นที่ได้ตัดความสัมพันธ์กับ FTX ยังรวมถึง Team SoloMid (TSM) กลุ่ม e-sport มืออาชีพที่มีความร่วมมือ TSM FTX มาก่อน ซึ่งได้ตัด FTX ออกจากชื่อเมื่อเดือนที่แล้ว ในขณะที่ Miami Heat ได้เริ่มหาสปอนเซอร์ใหม่เพื่อแทนชื่อ FTX Arena และแม้แต่ทีม Formula 1 ของ Mercedes ก็ยีังได้ยุติดีลกับ FTX และนำตรา FTX ออกจากรถแข่งทุกคันอีกด้วย

ที่มา: