Iakov Levin CEO ของ Midas Investments กล่าวว่าหลังจากที่ Terra, FTX และ Celsius ล้มละลายก็ทำให้ผู้ใช้งานถอนสินทรัพย์ภายใต้การจัดการออกไปมากกว่า 60% ซึ่งเป็นเหตุผลให้แพลตฟอร์มการลงทุนแบบ Custodial ซึ่งอยู่ในรูปแบบ CeDeFi จะปิดการดำเนินงานเนื่องจากขาดงบดุล 63.3 ล้านดอลลาร์ในกระเป๋าเงินสำรอง DeFi
ในการประกาศ Iakov Levin ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Midas Investments หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Trevor” เขียนว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นเพราะพอร์ตโฟลิโอ DeFi ของกองทุนหายไป 50 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็น 20% ของสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ Levin ยังกล่าวอีกว่าการล่มสลายของ Terra, FTX และ Celsius มีส่วนทำให้พวกเขาต้องดิ้นรนเพื่อหาทางรอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ใช้งานถอนเงินมากกว่า 60% ออกจากแพลตฟอร์ม
“เราประสบปัญหาสินทรัพย์ไหลออกมากกว่า 60% ในช่วงหกเดือนเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ LUNA, Celsius และ FTX สิ่งนี้ทำให้เราไม่สามารถรักษารูปแบบผลตอบแทนคงที่ของเราไว้ได้”
ตามประกาศ หนี้สินรวมของบริษัทใน Bitcoin และ Stablecoin อยู่ที่ 115 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่สินทรัพย์ปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 51.7 ล้านดอลลาร์ สิ่งนี้ทำให้เกิดการขาดดุลรวม 63.3 ล้านดอลลาร์
ผู้ก่อตั้งยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า Midas กำลังวางแผนที่จะนำเสนอกลยุทธ์ CeDeFi สำหรับผู้ใช้ CeFi และ DeFi ในที่สุด โดยสร้างโครงการใหม่โดยหวังว่าจะสร้าง “สถานการณ์ที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์” โดยจะเชื่อมต่อโปรโตคอลผ่านสภาพคล่อง
อย่างไรก็ตามหลังจากเปิดเผยเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่ามีแผนจะคืนเงินผู้ใช้อย่างไร ในที่สุดแพลตฟอร์ม DeFi Defrost Finance ก็ยุติความเงียบหลังถูกกล่าวหาว่ากำลัง “rugpull” สินทรัพย์มูลค่า 12 ล้านดอลลาร์ภายในแพลตฟอร์ม