<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการขู่ให้คุณรู้ว่ากำลังปราบปรามคริปโตอยู่

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกาประกาศว่าจะใช้ “มาตรการปราบปรามคริปโตระหว่างประเทศ”

แฟน ๆ คริปโตบน Twitter ได้ตื่นตระหนกกันอีกครั้ง และราคา Bitcoin และ Ethereum ก็ได้ร่วงลงมาเกือบ 5% ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ทำให้บนโลก Twitter เกิดคำถามว่า กระทรวงยุติธรรมกำลังจับตามองผู้เล่นรายใหญ่คนใดอยู่? หลังจากนั้นนาย CZ CEO ของกระดานเทรด Binance ก็ได้ออกมาทวีตว่า “4” 

ซึ่งเลขนี้ถ้าอ้างอิงไปถึงทวีตของเขาเมื่อวันที่ 3 มกราคม มันจะหมายความว่า “อย่าไปสนใจข่าว FUD ข่าวปลอม การโจมตี และอื่น ๆ”

และแล้วงานแถลงการก็เกิดขึ้น ปรากฏว่าผู้ที่ตกเป็นเป้าของกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯไม่ใช่ Binance, Celsius, Voyager หรือ Blockfi แต่เป็นกระดานเทรดคริปโตของรัสเซียในฮ่องกงที่ใช้ชื่อว่า Bitzlato

แฟน ๆ บนโลกคริปโตต่างก็งงกันว่ากระดานเทรดแห่งนี้คือกระดานเทรดอะไร และนอกจากนี้ทาง Twitter ของกระดานเทรดก็ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวมาเกือบปีแล้ว

กระทรวงยุติธรรมกล่าวว่ากระดานเทรด Bitzlato เกี่ยวข้องกับเงินผิดกฏหมายกว่า 700 ล้านดอลลาร์ และเกี่ยวข้องกับเงินที่ถูก Ransomware ขโมย

แต่ในวันที่ 18 มกราคม ผู้อำนวยฝ่ายปฏิบัติการของบริษัท Coinbase ได้ออกมาบอกว่า กระเป๋าเงินของลูกค้า Bitzlato รายนั้นกลับมีเงินอยู่แค่ 11,000 ดอลลาร์ และก่อนหน้าที่เคยมีเงินอยู่มากสุด 6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งต่างกับที่ทางกระทรวงยุติธรรมกล่าวไว้

ถึงอย่างนั้นนาง Lisa Monaco รองอัยการสูงสุดของกระทรวงยุติธรรมก็ได้บอกว่านี้เป็น “ระเบิดครั้งสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมคริปโต” และเธอก็ได้บอกว่ากระดานเทรด Bitzlato “เป็นอาชญากรรมคริปโตที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง”

และหลังจากนั้นตลาดคริปโตฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการให้ผู้คนรับรู้ว่ารัฐบาลตั้งใจที่จะปรามปราบและกำลังดำเนินการขั้นเด็ดการเกี่ยวกับกฏหมายคริปโต และสิ่งที่รัฐบาลทำก็ทำให้ผู้คนในโลกคริปโตต่างหัวเราะเยาะ

มีรายงานว่ากระทรวงยุติธรรมกำลังตรวจสอบ Binance มาตั้งแต่ปี 2018 และนอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่ากระทรวงยุติธรรมกำลังตรวจสอบ Digital Currency Group ซึ่งเป็นเจ้าของ Genesis ที่ได้ยื่นล้มละลายไปในสัปดาห์นี้

กระทรวงยุติธรรมไม่ได้สู้อยู่คนเดียว

นอกจากกระทรวงยุติธรรมจะมุ่งเป้ามาที่อุตสาหกรรมคริปโตแล้ว สำนักงาน SEC ก็ได้เดินหน้าเช่นกัน โดยล่าสุดได้มีการปรับบริษัท Genesis และ Gemini ในสัปดาห์ที่แล้วในข้อหาการละเมิดกฏหมายหลักทรัพย์

นาง Hester Peirce กรรมาธิการของสำนักงาน SEC ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ gm podcast เมื่อเดือนที่แล้ว และได้บอกว่าการล้มละลายของกระดานเทรด FTX จะทำให้อุตสาหกรรมคริปโตถูกควบคุมมากขึ้นและเธอได้บอกว่า

“ฉันมักพูดว่าผู้คนในโลกคริปโตกลัวคำว่า “กฏระเบียบ” อย่างไม่มีเหตุผล พวกเขาคิดว่ากฏระเบียบจะทำให้บริษัททั้งหมดถูกปิดลง และจริง ๆ แล้วกฏระเบียบจะเป็นการสร้างมาตรการป้องกันให้กับนักลงทุนรายย่อย”

สิ่งที่นาย SBF ทำ ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลเกิดความกระตือรือร้นมากขึ้น และนักการเมืองต่างกันพยายามที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกว่าพวกเขาจริงจังกับการกำจัดคริปโตมากขึ้น และนั่นอาจจะนำไปสู่การเกิดเหตุการณ์แบบ Tornado Cash เมื่อปีที่แล้ว

Source: Decrypto