ในวันนี้ (28 กุมภาพันธ์) ชาวพันทิปรายหนึ่ง ได้โพสต์กระทู้ในหัวข้อ “ลาก่อยตลาดหุ้นไทย หมดกันหนทางรวยคนรุ่นใหม่ ตลาดที่ทุกคนรู้ทันกันหมดมันก็เป็นแบบนี้แหละครับ” กล่าวบ่นตัดพ้อถึงตลาดหุ้น กล่าวว่า “ตลาดไม่ได้แจกเงินเหมือนเมื่อก่อนแล้ว” พร้อมบอกว่า คนที่ได้รับผลตอบแทนจากตลาดหุ้นมากแล้วถือว่าโชคดีไป ส่วนคนที่ไม่มีทุนมากพออาจไม่ได้โชคดีเท่า ยืนยันว่าช่วงนี้อาจไม่สามารถทำกำไรได้
โพสต์นี้ออกมาในช่วงที่ SET Index ดัชนีหุ้นไทย ร่วงลงจาก 1,636 จุดเมื่อเช้าวันนี้ ลงมาอยู่ที่ 1,624 จุดในขณะนี้ ลดลง 2.48% ในปีนี้ และยังไม่มีแนวโน้มว่าจะขึ้นแต่อย่างใด
แม้จะไม่ได้กล่าวถึงโดยตรง แต่สิ่งที่เจ้าของกระทู้ต้องการสื่อ คงไม่พ้นการที่คนในตลาดหุ้น “รู้ทันกันไปหมด” จนไม่เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายใหม่ได้เข้ามาแสวงหาผลกำไรในตลาดหุ้นอย่างที่ต้องการ
อย่างไรก็ตาม ชาวพันทิปคนอื่น ๆ ในกระทู้ไม่เห็นด้วยกับมุมมองของเจ้าของกระทู้มากนัก โดยชาวพันทิปบางคนถึงกับกล่าวว่า “กระจอกเอง อย่าโทษคนอื่น”
ตลาดหุ้นและตลาด Crypto นั้นถือมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็นลักษณะการซื้อขาย การขึ้นลงของราคา หรือลักษณะการลงทุน รวมไปถึงความอ่อนไหวของตลาดที่มีต่อสถานการณ์ต่าง ๆ เศรษฐกิจโลก และข่าวสารทั้งจริงทั้งเท็จ
แม้ว่า Crypto อาจไม่สามารถจ่ายปันผลรายปีได้เฉกเช่นเดียวกับหุ้น แต่ Crypto มีผลตอบแทนที่นับว่าสูงกว่ามาก ทำให้นักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไร อาจจะย้ายฝั่งมายังตลาด Crypto ได้
อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนที่มากกว่า แลกมาด้วยความผันผวนและความเสี่ยงที่สูงกว่า (High Risk High Return) ไม่ว่าจะเป็นด้านราคาที่อาจร่วงลงเมื่อใดก็ได้ ไปจนถึง Scam และการถูก Rug pull ซึ่งทำให้นักลงทุนหมดตัวไปหลายรายเมื่อก่อนหน้านี้
การเลือกลงทุนในตลาดหุ้นหรือตลาด Crypto จึงควรเลือกลงทุนตามสถานการณ์และความถนัด สิ่งที่สำคัญสำหรับนักลงทุนในทั้งสองตลาด คือ การลงทุนอย่างมีสติ ไม่ตื่นตระหนก และมีวิจารณญาณในการเสพย์สื่อต่าง ๆ อยู่เสมอ
คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ที่มา: Pantip