จากการสำรวจล่าสุดโดยบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ Kaspersky พบว่า 1 ใน 3 ของชาวอเมริกันที่เป็นเจ้าของหรือเคยเป็นเจ้าของ Cryptocurrency ได้ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงและการโจรกรรม
การตรวจสอบพบว่า 1 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถามล้วนเคยถูกขโมยทรัพย์สิน Crypto อย่างน้อยหนึ่งครั้ง โดยมีมูลค่าความเสียหายเฉลี่ยจากการถูกโจรกรรมอยู่ที่ 97,583 ดอลลาร์
นอกจากนี้ 1 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถามยังตกเป็นเหยื่อของเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ Crypto หรือการหลอกให้ลงทุน โดย 19% ถูกโจรกรรมข้อมูลประจำตัว และ 27% ถูกขโมยรายละเอียดการชำระเงินและเงินได้ถูกหักออกจากบัญชีธนาคารของพวกเขาแบบอัตโนมัติ
การสำรวจยังพบด้วยว่า 36% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุในช่วงระหว่าง 25-44 ปี เป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิตอลหรือสินทรัพย์คริปโตอยู่แล้ว เทียบกับ 10% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ เกือบครึ่งหนึ่ง (47%) ของผู้ตอบแบบสอบถามอายุ 18-24 ปียังกล่าวอีกว่า พวกเขาเคยถูกขโมยเงินดิจิทัลหรือสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างน้อย 1 ครั้งในขณะที่มีเพียง 8% ของผู้ตอบแบบสอบถามอายุ 55 ปีขึ้นไปที่พูดแบบเดียวกัน
ในแง่ของมาตรการป้องกันพบว่า 24% ของผู้ตอบแบบสอบถามในปัจจุบันเป็นเจ้าของ cryptocurrency หรือสินทรัพย์ crypto ตัวอื่น ๆ โดยเฉลี่ยแล้วผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาตรวจสอบการลงทุน crypto คือเมื่อ 6 สัปดาห์ก่อน
อย่างไรก็ตาม 32% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นเจ้าของหรือเคยเป็นเจ้าของ cryptocurrency กล่าวว่าพวกเขาสูญเสียการเข้าถึงบัญชี crypto และมีเพียง 34% เท่านั้นที่ทำการยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัยเพื่อปกป้องบัญชีของพวกเขา ขณะที่เพียง 14% กล่าวว่า พวกเขาได้สำรอง seed phrases และ private keys สำหรับการเข้าถึงบัญชี crypto
ในท้ายที่สุด การสำรวจได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเพิ่มความตระหนักและความระมัดระวังเมื่อลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการสำรอง seed phrases หรือวิธีการขั้นสูงอย่างการใช้กระเป๋าเงินเย็น (cold wallet), การใช้กระเป๋าส่วนตัว(self-custody) ซึ่งสิ่งนี้จะมีความสำคัญในการช่วยจัดเก็บ crypto อย่างปลอดภัย
ที่มา : cryptoslate