<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Tim Cook เทขายหุ้น Apple ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปี มูลค่า 1.5 พันล้านบาท หลังราคาหุ้นร่วงกว่า 13%

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Tim Cook ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท Apple Inc. ได้เทขายหุ้นของบริษัทรวมมูลค่าประมาณ 41 ล้านดอลลาร์ หรือราว ๆ 1.5 พันล้านบาท ซึ่งการขายหุ้นครั้งนี้ถือเป็นการขายครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปี

ตามเอกสารที่ยื่นต่อ ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ในครั้งนี้ Cook ขายหุ้นไปประมาณ 241,000 หุ้น โดยอีกประมาณ 270,000 หุ้นถูกหักไว้เพื่อชำระภาษี ทั้งนี้ข้อมูลที่รวบรวมโดย Bloomberg ระบุว่าเขายังคงถือหุ้นอีกประมาณ 3.28 ล้านหุ้นในบริษัทที่เขาทำงานมานานกว่าสองทศวรรษ

การขายหุ้นนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Cook ลดเงินเดือนของตนเองลงประมาณ 40% เหลือ 49 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเงินเดือนของเขานั้นทำให้ผลตอบแทนจากหุ้นที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพของ Apple เพิ่มขึ้นจาก 50% เป็น 75% ในปีนี้ 

ขณะเดียวกัน ผู้บริหารคนอื่น ๆ ของ Apple ยังออกมาเปิดเผยยอดขายหุ้นอีกด้วย ซึ่งรวมถึงรองประธานอาวุโส Deirdre O’Brien และ Katherine Adams ซึ่งขายหุ้นกันคนละ 11.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

การขายหุ้นครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายของ Cook เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2021 โดยเขาขายหุ้น Apple ได้กว่า 750 ล้านดอลลาร์ หลังจากดำรงตำแหน่ง CEO มานานร่วมทศวรรษ ซึ่งหลังจากหักภาษี ณ ที่จ่ายแล้ว เขาจะได้รับรายได้สุทธิประมาณ 355 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย Bloomberg

ก่อนหน้านี้ หุ้นของ Apple ได้พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนกรกฎาคม 2023 และนับตั้งแต่นั้นมา มูลค่าของหุ้นก็ร่วงลงมากกว่า 12% เนื่องจากมีการขายหุ้นในภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยี นอกจากนี้ บริษัท KeyBanc Capital Markets Inc. ยังลดเกรดหุ้นในวันอังคารที่ผ่านมา เนื่องจากมีการดูแลผลตอบแทนจากการขายที่ไม่ดี แต่หุ้น Apple ยังคงมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากถึง 0.6% ในวันพุธที่ผ่านมา

Jack Dorsey ท้า Apple ให้รวม Bitcoin เข้ากับบริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัท

เมื่อไม่นานมานี้ Jack Dorsey อดีต CEO ของ Twitter ได้ท้าทายให้ Apple พิจารณาเรื่องการรวม Bitcoin เข้ากับบริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซึ่งข้อเสนอของ Jack Dorsey ได้จุดประกายให้เกิดการถกเถียงอย่างดุเดือดในโลกของคริปโตและเทคโนโลยี 

เนื่องจากบางคนเชื่อว่าหาก Apple ยอมรับ Bitcoin จะสามารถช่วยให้อุตสาหกรรมคริปโตเข้าใกล้การยอมรับในกระแสหลักมากยิ่งขึ้น ด้วยจำนวนผู้ใช้ Apple หลายล้านคนที่จะสามารถเข้ามาสำรวจโลกคริปโต

ที่มา: bnnbloomberg