หลังจากเปิดตัวแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไบแนนซ์ ประเทศไทย ( Binance TH) อย่างเป็นทางการในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัท Binance มองว่าประเทศไทยถือเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล เนื่องจากประเทศไทยได้รับการจัดอันดับเป็นประเทศที่มีการยอมรับคริปโทเคอร์เรนซีมากที่สุดเป็นอันดับที่ 10 ของโลก ตามดัชนีการยอมรับคริปโทเคอร์เรนซีประจำปี 2023 ซึ่งจัดทำโดย Chainalysis บริษัทผู้ให้บริการวิเคราะห์ บล็อกเชน
Binance มองประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญที่มีศักยภาพในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล โดยประเทศไทยมีอัตราการยอมรับให้เกิดการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลมากถึง 10% รวมถึงคนไทยมีความเชียวชาญทางเทคโนโลยี และสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว และมีนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจ ทำให้ประเทศไทยมีข้อได้เปรียบและมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ทำให้บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างและเข้าไปมีส่วนร่วมในคอมมูนิตีเพื่อต่อยอดความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์อันหลากหลายของสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชน
การจับมือกับบริษัท กัลฟ์ อินโนวา จำกัด ถือเป็นการร่วมมือที่สำคัญ เนื่องจาก กัลฟ์ เป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย และที่สำคัญยังมีวิศัยทัศน์ในการลงทุนและมีความพร้อมด้านบล็อกเชนและเทคโนโลยีสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงมีบริการอย่าง AIS อีกด้วย
Ceo คนใหม่ของ Binance ยังกล่าวเสริมอีกว่า “การเติบโตของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล 5 ปีจากนี้ จะรวดเร็วยิ่งกว่า 5 ปีที่ผ่านมา”
เป้าหมายหลักของ กัลฟ์ ไบแนนซ์ คือการขึ้นเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอันดับ 1 ในประเทศไทย โดยตั้งเป้าหมายเพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศด้วยการให้ความสำคัญกับผู้ใช้งาน การพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยี และการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยของการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล