ในช่วงเมื่อวานนี้ (วันที่ 20 มีนาคม 2024) ทางสยามบล็อกเชนได้รับเกียรติในการเข้าร่วมงาน South Eeast Asia Technology Conference (SEAT) โดยภายในงานก็ได้มีเหล่าผู้เชี่ยวชาญชั้นนำจากหลายสาขา ทั่วทั้งโลก ได้ขึ้นมาบรรยายและเปลี่ยนความรู้กันภายในงาน ซึ่งในบทความนี้สยามบล็อกเชนจะพาทุกท่านไปพบกับโปรเจกต์ EON หนึ่งในโปรเจกต์ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากจากงาน SEAT
ตัวของโปรเจกต์ดังกล่าวอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท Bithuman นำโดย Steve Gu ซึ่งเป็นซีอีโอ และผู้ร่วมก่อตั้ง ภายในงาน Gu ได้เริ่มต้นขึ้นว่าในปัจจุบันนั้นเทคโนโลยีนั้นมีอยู่มากมายอยู่รอบตัวเรา แต่เทคโนโลยีเหล่านั้นยังขาดความเป็นมนุษย์อยู่ เช่นความอบอุ่น ความเห็นใจ แต่จะเป็นอย่างไรถ้าเทคโนโลยีมีสิ่งเหล่านี้
Gu ได้ยกตัวอย่างการนำความเป็นมนุษย์มาใส่ในเทคโนโลยี อย่างเช่นการใช้ตัวการ์ตูนมาพูดคุยกับเด็กที่เป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาลจะช่วยลดความเครียดให้กับเด็กเป็นอย่างมาก หรือจะเป็นการใช้บุคคลจำลองในการเสนอขายสินค้าในห้างที่สามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้แบบ real-time ก็เป็นการพัฒนาที่ดี โดยเขาระบุว่าในปี 2025 มนุษย์จะมีผู้ช่วยเป็น AI มากกว่า 10 โมเดล ต่อคน ทำให้เห็นว่าเทคโนโลยีนี้จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวันในอนาคต
นอกเหนือจากการใช้ AI ในการจำลองเป็นอวตารต่าง ๆ เพื่อสื่อสารกับมนุษย์แล้วทาง Bithuman ยังมีโปรเจกต์สุดท้าทายที่ซุ่มพัฒนาอยู่ซึ่งก็คือ โปรเจกต์ EON ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่สร้างตัวตนจำลองของมนุษย์ในรูปแบบดิจิทัล ที่มีความเหมือนต้นฉบับทุกประการ ไม่ว่าจะเป็น รูปลักษณ์ เสียง อุปนิสัย ท่าทาง โดยจะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถฝึกฝนเอไอของตนเองขึ้นมาได้ พูดง่าย ๆ ว่าคือร่างจำลองของเราในโลกดิจิทัลที่มีความนึกอ่านเหมือนกับเราไม่มีผิด
นอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้วอวตารจำลองของเรายังมีความทรงจำของต้นแบบได้ด้วย ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าเรื่องราวทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับเราจะไม่มีทางถูกลืมหายไปไหนและถูกเก็บรักษาไว้ในอวตารตัวนี้
หากการพัฒนาโปรเจกต์นี้เสร็จสมบูรณ์จะทำให้มนุษย์สามารถเข้าถึงก้าวแรกของความเป็นอมตะผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลได้ ลองนึกสภาพดูว่าถ้าหากเราเก็บตัวตนของ ไอน์สไตน์ไว้ และให้เขาเป็นอาจารย์สอนมนุษย์รุ่นถัด ๆ ไปด้วยตนเองจะเป็นไอเดียที่สุดยอดขนาดไหน
หากผู้อ่านคนไหนสนใจโปรเจกต์ดังกล่าวสามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Bithuman ได้ ที่นี่