<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Binance Labs ประกาศลงทุนใน StakeStone ปูทางสู่ยุคใหม่ของ DeFi ที่ไร้พรมแดน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมนวัตกรรมบนบล็อกเชนของ Binance Labs ซึ่งเป็น Venture capital หรือ หน่วยงานที่คอยสนับสนุนธุรกิจที่มีศักภาพในช่วงเริ่มต้น ได้เป็นผู้นำในการลงทุนของโปรเจกต์คริปโตอย่าง StakeStone 

ในฐานะที่ StakeStonne เป็นโปรโตคอลด้านการ Staking ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อสภาพคล่องระหว่างบล็อกเชนต่างๆ (omnichain)  พร้อมทั้งมอบผลตอบแทนให้กับการ Staking และเพิ่มสภาพคล่องให้กับเครือข่ายบล็อกเชน

StakeStone นั้นแตกต่างจากระบบแบบดั้งเดิมในตลาด ซึ่งจะนำเสนอความโปร่งใสอย่างสมบูรณ์สำหรับสินทรัพย์อ้างอิงต่าง ๆ อีกทั้งยังให้ผลตอบแทน ผ่านการ Staking แบบ Decentralized โดยผ่านกลไก OPAP (Open Platform for Asset Protection) ซึ่งจะช่วยให้ผู้ถือโทเค็น STONE ได้รับผลตอบแทนจากการ staking ที่ปรับให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ 

สินทรัพย์อ้างอิงในโลกคริปโต ยกตัวอย่างเช่น USDT, USDC , WBTC และ PAXG

ในเครือข่ายของ StakeStone นั้นผู้ใช้งานสามารถฝากโทเค็น ETH โดยได้รับผลตอบแทนเป็นโทเค็น STONE  ที่เสนอผลตอบแทนให้กับผู้ทำการ Staking และเพิ่มสภาพคล่องให้กับเครือข่ายเลเยอร์ 2 ต่าง ๆ

โปรโตคอลนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการปรับขยายขนาด (Scaling) โดยสามารถทำงานร่วมกับสินทรัพย์พื้นฐานสำหรับการ staking ได้หลากหลายประเภท ยกตัวอย่างเช่น ETH POS staking, Eigenlayer restaking, LRT, LST retaking, native restaking และสินทรัพย์ประเภท Staking ใหม่ๆ เป็นต้น

ในยุคที่มีเครือข่ายบล็อกเชนอยู่มากมาย และเครือข่ายเหล่านี้กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โปรเจกต์ StakeStone จึงทำหน้าที่เป็น ‘ตลาดสภาพคล่อง’ (liquidity marketplace) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของสภาพคล่องระหว่างเครือข่ายต่างๆ

Yi He ผู้ร่วมก่อตั้ง Binance และ หัวหน้า Binance Labs ได้กล่าวชื่นชมศักยภาพของ StakeStone โดยระบุว่า “StakeStone จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาความซับซ้อนของการกระจายสภาพคล่องแบบ omnichain ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงของผู้ใช้งานให้ขยายวงกว้างมากขึ้น”

นอกจากนี้ StakeStone ยังมีแผนที่จะผสานสินทรัพย์อ้างอิงที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ากับระบบอย่างต่อเนื่อง โดยจะมุ่งเน้นไปที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานแบบกระจายศูนย์ (DePIN) เป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม ตามที่ผู้ร่วมก่อตั้งของ StakeStone ได้กล่าวไว้ว่า โปรโตคอลนี้มีเป้าหมายในการสร้างเครือข่ายการกระจายสภาพคล่องแบบ omnichain ที่ไร้ศูนย์กลางและมีความยั่งยืนในระยะยาว เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการแบ่งปันความปลอดภัยที่ consensus layer และยกระดับประสิทธิภาพที่ application layer ซึ่งการสนับสนุนจาก Binance Labs ถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้เป้าหมายของ StakeStone เกิดขึ้นจริง

ที่มาเนื้อหาและภาพ:Binance News