<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

กองทุน Spot Bitcoin ETF กลับมาคึกคัก! ดึงดูดเงินลงทุนไหลเข้ารวมกันกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

กองทุน Bitcoin ETF ของ Fidelity ทำลายสถิติเงินทุนไหลเข้ารายวันสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา กลายเป็นผู้นำกองทุนที่มีเงินลงทุนไหลเข้าสูงสุด โดยกวาดเงินลงทุนไหลเข้ากองทุน ETF ไปถึง 279 ล้านดอลลาร์

เงินทุนใหม่กำลังไหลกลับเข้าสู่กองทุน Spot Bitcoin ETF ของสหรัฐฯ อีกครั้ง หลังจากที่มีเงินลงทุนไหลออกสุทธิเป็นเวลา 5 วันติดต่อกัน

ตามข้อมูลจาก Farside Investors ระบุว่า เมื่อวันที่ 26 มีนาคม กองทุน Spot Bitcoin ETF ทั้ง 10 กองทุนที่ได้รับการอนุมัติ มีเงินลงทุนไหลเข้าสุทธิรวมกัน 418 ล้านดอลลาร์ โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจากเงินทุนที่ไหลเข้ากองทุนของ Blackrock และ Fidelity

กองทุน Bitcoin ETF ของ Fidelity สร้างสถิติเงินทุนไหลเข้ารายวันสูงสุดตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม โดยกวาดเงินทุนเข้ากองทุน ETF ไปถึง 279.1 ล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา 

นอกจากนี้ Fidelity ยังได้เข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มเติมอีก 4,000 BTC ซึ่งนับเป็นวันที่สองติดต่อกันที่กองทุนนี้มีเงินทุนไหลเข้ามากกว่า 260 ล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ กองทุนของ BlackRock ก็มีเงินทุนไหลเข้า162.2 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ปริมาณเงินทุนไหลเข้ารายวันของกองทุนนี้ยังคงถือว่า น้อย เมื่อเทียบกับช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่มากกว่า 300 ล้านดอลลาร์ต่อวัน

กองทุน Ark 21Shares Bitcoin ETF ประสบความสำเร็จสูงสุด นับตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม โดยมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ มูลค่า 73.6 ล้านดอลลาร์

ในขณะเดียวกัน กองทุน Invesco Galaxy, Franklin Templeton และ Valkyrie ต่างก็มีเงินทุนไหลเข้ามากกว่า 26 ล้านดอลลาร์สำหรับกองทุนของตนเอง

ส่วนกองทุน Bitcoin Trust (GBTC) ของ Grayscale ยังคงมีการไหลออกของเงินทุนอย่างต่อเนื่อง โดยมีการไหลออกประจำวันมูลค่า 212 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังไม่มากพอที่จะเทียบเท่ากับเงินทุนสุทธิที่ไหลเข้ากองทุน Bitcoin ETF ของคู่แข่ง

บริษัทจัดการสินทรัพย์ คริปโต Hashdex ขึ้นแท่นเป็นผู้จัดการกองทุน Spot Bitcoin ETF ลำดับที่ 11 ของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม หลังจากประกาศปรับเปลี่ยนกองทุนเดิมที่ลงทุนในสัญญา futures ให้กลายเป็นกองทุนที่ลงทุนใน Bitcoin แบบ Spot โดยกองทุนใหม่นี้มีชื่อย่อว่า DEFI

ที่มา : cointelegraph