นักลงทุนคริปโตสัญชาติอเมริกัน ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังจากฉายา “พระเยซูแห่งบิตคอยน์ ( Bitcoin Jesus)” ถูกกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งข้อหาหลบเลี่ยงภาษีเป็นเงินกว่า 48 ล้านดอลลาร์
Roger Ver ได้สละสัญชาติอเมริกันในปี 2014 และกลายเป็นพลเมืองของเซนต์คิตส์และเนวิส ก่อนถูกจับกุมในสเปนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ Roger Ver เคยกล่าวว่า การฟอกเงินไม่ควรเป็นความผิดอาญา ซึ่งเขาถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (mail fraud) และยื่นแบบแสดงรายการภาษีปลอม
สหรัฐฯ จะส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน Roger Ver ในวัย 45 ปี หลังจากที่สำนวนคดีได้ถูกยื่นต่อศาลรัฐบาลกลางลอสแองเจลิสเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
Bryan Skarlatos ทนายความของ Roger Ver กล่าวว่า เขา “ผิดหวังและประหลาดใจมาก” กับการจับกุม ในขณะที่ลูกความของเขากำลังเดินทางอยู่ในสเปน
Roger Ver ได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีชั้นนำ ในการรายงาน เกี่ยวกับ Bitcoin ของเขา และเขามีเจตนาที่จะปฏิบัติตามภาระด้านภาษีของสหรัฐฯ อย่างเต็มที่เสมอ” Bryan Skarlatos กล่าว
“เราหวังว่า จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขาในชั้นศาล หากจำเป็น”
คำฟ้องของเขาเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่ Changpeng Zhao ผู้ก่อตั้งเว็บเทรดคริปโตอย่าง Binance ถูกตัดสินจำคุก 4 เดือน หลังจากรับสารภาพในข้อหาฟอกเงินเมื่อปีที่แล้ว
ในปี 2014 Roger Ver ได้ช่วยปกป้อง Charlie Shrem หลังจากผู้ร่วมก่อตั้งเว็บเทรดคริปโต Bitcoin ชื่อดังอย่าง BitInstant (ปัจจุบันปิดกิจการแล้ว) ถูกตั้งข้อหาการฟอกเงิน ซึ่ง Charlie Shrem ถูกตัดสินลงโทษและถูกจำคุกสองปี
“มันเป็นแค่เพราะคนบางกลุ่มที่มีอำนาจ ไม่พอใจที่คนอื่นใช้เงินของตัวเอง ดังนั้นเลยใช้อำนาจกักขังคนเหล่านั้น เหมือนกับการกักขังคนไว้ในกรง” Ver บอกกับสำนักข่าว The Verge
“แม้ว่าทุกสิ่งที่รัฐบาลกล่าวหาจะเป็นเรื่องจริง แต่ Charlie Shrem ก็ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดศีลธรรมเลย”
ตามกฎหมายแล้ว ใครก็ตามที่สละสัญชาติสหรัฐอเมริกาจะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีที่รายงานกำไรจากการขายสินทรัพย์ของตน รวมถึง Bitcoin ด้วย
Roger Ver ถูกรัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดให้จ่าย “ภาษีนอกประเทศ” จากกำไรที่ได้จากการขายสินทรัพย์ดิจิทัลของเขา
อัยการ กล่าวว่า Roger Ver ได้สละสัญชาติของเขา เพื่อจุดประสงค์ในการหลบเลี่ยงภาษี
ตามกฎหมายภาษีสหรัฐฯ เมื่อบุคคลสละสัญชาติ ทรัพย์สินของบุคคลนั้นจะถูกพิจารณาเหมือนกับว่า ถูกขายไปในราคาตลาดที่ยุติธรรม ในวันก่อนที่เขาจะสละสัญชาติ โดยกระบวนการนี้เรียกว่า “การขายโดยปริยาย (constructive sale)”
ภายใต้กฎหมายภาษีของรัฐบาลกลาง กำไรใด ๆ ที่เกิดขึ้นจาก “การขายโดยปริยาย(constructive sale) ” จะต้องนำมาพิจารณาในปีภาษีนั้นด้วย
ในวันที่เขากลายเป็นพลเมืองของเซนต์คิตส์และเนวิส Roger Ver และบริษัท 2 แห่งที่เขาเป็นเจ้าของ คือ MemoryDealers.com และ Agilestar.com ถือครอง bitcoin อยู่ประมาณ 131,000 BTC ซึ่งในช่วงเวลานั้น โดย bitcoin แต่ละเหรียญมีราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 871 ดอลลาร์ หากคิดเป็นมูลค่ารวม จะมีมูลค่ามากกว่า 114 ล้านดอลลาร์
อัยการกล่าวว่า Roger Ver ได้ว่าจ้างสำนักงานกฎหมาย เพื่อช่วยยื่นแบบแสดงรายการภาษีที่เกี่ยวข้องกับการย้ายออกนอกสหรัฐฯ และประเมินมูลค่าบริษัทของเขา แต่ Roger Ver กลับให้ข้อมูลเท็จหรือข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิด เกี่ยวกับจำนวนคริปโตเคอร์เรนซีที่เขาถือครองอยู่จริง ๆ
สำนักงานกฎหมายของ Roger Ver ถูกกล่าวหาว่า ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีที่ประเมินมูลค่าบริษัททั้งสองแห่งและ bitcoins ของบริษัท ต่ำกว่าความเป็นจริง
สำนวนฟ้องยังกล่าวอีกว่า แบบแสดงรายการภาษีดังกล่าว ไม่ได้ระบุด้วยว่า Roger Ver เป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลเหล่านั้นเอง
คำฟ้องดังกล่าว ระบุว่า บริษัททั้งสองแห่งยึดคืนสิทธิ์การครอบครอง Bitcoin จำนวน 70,000 BTC ที่พวกเขาเป็นเจ้าของ และขายไปในราคาประมาณ 240 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2017
แต่อัยการกล่าวว่า เขาไม่ยอมเสียภาษีเงินได้ที่เขาควรจะต้องจ่าย จากการกระจายผลกำไรของบริษัทสัญชาติอเมริกัน ทั้งสองแห่งนั้น
กรมสรรพากรของสหรัฐฯ (Internal Revenue Service) สรุปว่า Roger Ver ได้หลบเลี่ยงภาษีเป็นเงินทั้งหมด 48 ล้านดอลลาร์ ระหว่างปี 2014 ถึง 2017
ที่มา : newyorkpost