ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเผชิญกับแรงเทขายหนักในช่วงเช้าวันนี้ ส่งผลให้ราคา Bitcoin ร่วงลงอย่างรุนแรงแตะระดับต่ำสุดที่ $62,111 ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นมาเล็กน้อย การร่วงลงครั้งนี้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนหลายราย โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤษภาคมที่มักมีปรากฏการณ์ “Sell in May”
อ้างอิงกราฟราคา BTCUSDT บนเว็บไซต์ TradingView แสดงให้เห็นว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาราคาของ Bitcoin ได้ร่วงลงมาทำจุดต่ำสุดอยู่ที่ $62,111 ณ เวลาประมาณ 6 โมงเช้า ตามเวลาประเทศไทย โดยที่ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาราคา Bitcoin ได้เกิดความผันผวนอย่างหนัก หลังซื้อขายกันอยู่ที่ $64,000 ก่อนจะร่วงลงกลับมาที่ระดับ $62,000 อีกครั้ง
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ราคาของ Bitcoin ร่วงลดลงนั้นยังไม่มีสาเหตุที่แน่ชัดแต่คาดว่ามี 3 สาเหตุด้วยกันโดยประการแรกคือ การปิด Gap ของ Bitcoin ในตลาด CME Futures ที่ได้มีการเปิดไว้ตั้งแต่ 6 พ.ค. ที่ระดับราคา $62,500 – $63,500 ซึ่งโดยปกติแล้วช่องว่างดังกล่าวมักจะถูกเติมเต็มเสมอเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่มองว่านี่อาจเป็นสัญญาณการปรับฐานที่ดีต่อราคา Bitcoin ในระยะสั้น
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่นักลงทุนกังวลอย่าง “Sell in May and Go Away” เนื่องจากเมื่อเข้าสู่เดือนพฤษภาคม นักวิเคราะห์ในตลาดมักจะอ้างถึงกลยุทธ์นี้ กล่าวคือ การขาย Bitcoin ออกไปก่อนในเดือนพฤษภาคมและกลับเข้ามาช้อนซื้ออีกครั้งในเดือนตุลาคม จึงอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เดือนนี้มีแรงเทขายที่สูงมากกว่าปกติ
ถัดมาจะเป็นเหตุผลด้านกฎหมายและการเมืองหลังจากที่เมื่อวานนี้สำนักข่าว CNBC ได้ทำการสัมภาษณ์ Gary Gensler ประธานคนปัจจุบันของ SEC ซึ่งในภาพรวมนั้นเขาได้แสดงจุดยืนที่เป็นลบต่ออุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งนี่อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งทำให้ราคา Bitcoin ค่อย ๆ ร่วงลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืน
ขณะที่รายงาน Bitcoin มีการซื้อขายกันอยู่ที่ $62,566 ลดลง 1.91% ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อ้างอิงข้อมูลจาก Coinmarketcap
