Jerome Powell ประธาน SEC กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า วงการ Crypto จำเป็นต้องมีการสอดส่องอย่างใกล้ชิด เนื่องจากวงการ Crypto เต็มไปด้วยความวุ่นวาย อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมที่ถูกใช้ในภาคการเงินโลกไม่ควรถูกกีดกัน
เขายังกล่าวเมื่อถูกถามถึงวงการ Crypto อีกด้วยว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ “ค่อนข้างมีความกระตือรือร้น” ในวงการ Crypto เสริมว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่ต้องการที่จะยับยั้งนวัตกรรมแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า สถาบันทางการเงินถูกกฎหมายต่าง ๆ ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ เป็นผู้ดูแล จำเป็นต้อง “ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด” เพื่อดูว่าสถาบันทางการเงินเหล่านี้มีความข้องเกี่ยวกับวงการ Crypto อย่างไร
“เช่นเดียวกับทุกคน พวกเราได้จับตามองวงการ Crypto ว่าเป็นไปในทิศทางใด และสิ่งที่พวกเราเห็นคือความวุ่นวาย พวกเราเห็นการฉ้อโกง พวกเราเห็นการขาดความโปร่งใส พวกเราเห็นการกระทำที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง พวกเราเห็นสิ่งเหล่านั้นมากมาย” Jerome Powell กล่าว “สิ่งที่พวกเรากำลังทำ คือการทำให้แน่ใจว่าสถาบันทางการเงินถูกกฎหมายต่าง ๆ ที่พวกเรากำลังดูแล มีความระมัดระวังในวิธีการที่พวกเขาพัวพันกับวงการ Crypto”
วงการ Crypto ถูกสั่นคลอนด้วยการล้มละลายของบริษัทใหญ่และการถกเถียงมากมายเมื่อปีที่แล้ว เหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดคือ การล่มสลายของ FTX กระดานเทรดที่ดูแลโดย Sam Bankman-Fried เมื่อเดือนพฤศจิกายน จากการบริการที่ผิดพลาด
นอกจากเรื่องของวงการ Crypto แล้ว หัวข้อหลักของการประชุมในครั้งนี้คือภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งกำลังพุ่งสูงในสหรัฐฯ
ธนาคารกลางสหรัฐฯ พยายามลดการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อด้วยการเพิ่มอัตราดอกเบี้ย โดยเมื่อปีที่แล้ว ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้เริ่มเพิ่มอัตราดอกเบี้ยถึง 75 จุดเป็นจำนวน 4 ครั้ง ก่อนจะลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ 50 จุด
การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อราคา Bitcoin และตลาด Crypto เช่นเดียวกับสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ เนื่องจากเมื่ออัตราดอกเบี้ยถูกปรับขึ้นและสภาพการเงินมีความไม่แน่นอน นักลงทุนมักจะมองหาสิ่งที่มีความปลอดภัยเพื่อพักเงินของพวกเขา
เมื่อไม่นานมานี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 จุด อย่างไรก็ตาม Jerome Powell กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นและไวขึ้นกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ จากการที่อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงเกินไป
“แกนหลักของภาวะเงินเฟ้อได้ลดระดับลง แต่ยังไม่อยู่ในจุดที่พวกเราคาดหวัง และยังคงมีหนทางอีกยาวไกล” เขากล่าว
ราคาหุ้นและ Bitcoin ต่างร่วงลงหลังจากข่าวนี้ออกมา โดยราคา Bitcoin ได้ร่วงลงมาอยู่ที่ 22,120 ดอลลาร์ ก่อนจะค่อยๆไต่ระดับกลับขึ้นไปอยู่ที่ 22,250 ดอลลาร์ตามข้อมูลจาก CoinGecko โดย Bitcoin ได้ร่วงลง 1.2% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และ 5.4% จากสัปดาห์ที่แล้ว
ที่มา: Decrypt