เมื่อปีที่แล้วกระแสคริปโตในเมืองไทยนั้นมาแรงเป็นอย่างมาก ทุก ๆ คนจากทุกวงการก็กระโดดลงมาในวงการคริปโตแทบทั้งสิ้น
ทุกคนได้ทำการลงทุนในคริปโต ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบไหนก็ได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็นการเทรดบนเว็บเทรดคริปโต หรือแม้แต่การขุดเหรียญก็ตาม
การขุดเหรียญก็ถือว่าเป็นอะไรที่บูมเป็นอย่างมากในปีที่ผ่านมา เพราะว่ามันสามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาล โดยหลาย ๆ คนมีความเชื่อที่ว่า “เสียบปลั๊ก รับตังค์” เลยก็ว่าได้
ตั้งแต่ต้นปี 2018 ราคา Bitcoin ก็ได้ลดลงเรื่อย ๆ จากราคา 19,500 ดอลลาร์เมื่อปลายเดือนธันวาคมปี 2017 แต่ทุกคนก็ยังมีความเชื่อว่าราคา Bitcoin จะยังคงกลับไปที่เดิม
แต่ในขณะที่เขียนบทความนี้ราคา Bitcoin กลับอยู่ที่ราคา 6,300 ดอลลาร์ ซึ่งได้ลดลงกว่า 60 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว และการขุดคริปโตจะยังเป็นที่นิยมอยู่หรือไม่
ราคา Bitcoin ร่วง
สังเกตได้ง่าย ๆ หลังจากที่ราคา Bitcoin ร่วงลงเรื่อย ๆ คนที่เป็นเจ้าของเครื่องขุดก็อาจจะต้องกลับมานั่งคิดว่า ค่าไฟหรือค่าใช้จ่ายในการเปิดเครื่องขุดนั้น มันคุ้มค่าหรือสามารถทดแทนกันได้หรือเปล่า
โดยในขณะที่ราคา Bitcoin นั้นอยู่ที่ 10,000 ดอลลาร์ เจ้าของเครื่องขุดอาจยังสามารถรับค่าใช้จ่ายในการขุดได้ และอาจยังไม่ถึงจุดที่ขาดทุน
แต่เมื่อราคา Bitcoin ร่วงกว่า 60 เปอร์เซ็นต์แล้วนั้น การขุดอาจไม่คุ้มค่าสำหรับเจ้าของเครื่องขุดเสียแล้ว เพราะว่าเราจะขุดไปทำไมเพราะราคาของ Bitcoin ก็ร่วงมากกว่า 60 เผอร์เซ็นต์ และถ้าพวกเขาไปเทรดบนเว็บเทรดก็อาจทำกำไรได้มากกว่าเสียอีก
รายงานจากบริษัทผลิตเครื่องขุดคริปโต
ถ้ากล่าวถึงบริษัทเหมืองขุดคริปโตเจ้าใหญ่ ทุกคนก็ต้องคิดถึง Bitmain กัน โดยพวกเขาได้เปิดเผยถึงรายงานรายได้ของพวกเขา
ล่าสุดในไตรมาสที่สอง พวกเขาได้เปิดเผยรายได้ของพวกเขาโดยระบุว่าพวกเขาขาดทุนกว่า 395 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2 พร้อมทั้งระบุอีกด้วยว่า สูญเสียค่าผลิตชิปที่ล้มเหลวไปกว่า 0.5 พันล้านดอลลาร์ ใน 18 เดือนที่ผ่านมา
นอกจาก Bitmain แล้วนั้นทาง GMO ก็ได้เผิดเผยถึงรายได้ในไตรมาสสองเช่นกัน โดยทาง GMO ได้รายงานว่ารายได้ในส่วนของบริการด้านขุดเหมืองคริปโตของบริษัทนั้นขาดทุนกว่า 640 ล้านเยน (ประมาณ 5.6 ล้านดอลลาร์) ในไตรมาสที่สาม
นอกจากผู้ผลิตเครื่องขุดคริปโตแล้วนั้น ผู้ผลิตชิพขุดคริปโตชื่อดัง TSMC ก็ได้ออกมาประกาศเป็นเสียงเดียวกันว่า “กระแสขุดคริปโตจะลดลงอีกในไตรมาสที่สี่” เช่นกัน
ค่าใช้จ่าย
การขุดเหรียญคริปโตอาจมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน เพราะอุปกรณ์ในการขุดเหรียญคริปโตก็แตกต่างกันไปเช่นกัน โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะมีเครื่อง ASIC และอีกรูปแบบหนึ่งก็คือใช้การ์ดจอในการขุดนั่นเอง
และเมื่อค่า Diff หรือความยากในการแก้สมการมากขึ้น ก็จะได้เหรียญที่ขุดน้อยลงถ้าเทียบในเวลาเท่ากัน และค่าไฟฟ้าก็มากขึ้นด้วยเช่นกัน
และเมื่อเจ้าของเครื่องขุดคำนวนค่าใช้จ่ายในการขุดแล้วนั้น ก็อาจทำการตัดสินใจ “ชักปลั๊ก รักษาตังค์” แทนก็เป็นได้
สรุป
การลงทุนในคริปโต มีหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการเทรด การขุดหรือการซื้อเหรียญโดยตรงจากผู้ให้บริการเว็บเทรดต่าง ๆ นักลงทุนสามารถเลือกรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเองได้เลย
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น