<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ลุงชาวไทยอายุ 70 ถูกคนร้ายใช้รูปสาวหลอกเทรดคริปโต สูญเงินเกือบ 5 ล้านบาท

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในยุคที่การหลอกหลวง Cryptocurrency บนโลกออนไลน์กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก อย่างที่เรา ๆ เคยเห็นไปแล้วบนโลกโซเชียล ล่าสุดได้มีการหลอกหลวงให้ลงทุน Cryptocurrency  ในประเทศไทยเริ่มปรากฏให้เห็นเยอะมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงที่มูลค่าของคริปโตเคอเรนซี่กำลังเริ่มฟื้นตัวและเริ่มกลายเป็นที่สนใจในหมู่นักลงทุนชาวไทยอีกครั้ง

เมื่อเวลา 16.00 น วันที่ 5 สิงหาคม 2022 นายสมชาย (นามสมมติ) อายุ 70 ปี ได้ติดต่อไปหาผู้สื่อข่าวเื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับคดีที่ถูกมิจฉาชีพนำรูปนางแบบมาสวมรอยในบัญชีเฟซบุ๊กและไลน์เพื่อหลอกให้โอนเงินไปเทรดเหรียญคริปโตจนสูญเสียเงินเก็บไปกับมิจฉาชีพรายนี้ เป็นจำนวนเงินถึง 4,898,000 บาท

โดยนายสมชายได้เปิดเผยว่า ช่วงปลายเดือน มิถุนายน 2022 เขาได้ถูกหญิงสาวรายหนึ่งทักมาหาในเฟชบุ๊กโดยใช้รูปโปรไฟล์ที่เป็นหญิงสาวลูกครึ่ง แล้วหลังจากนั้นหญิงสาวรายนี้ก็ได้ขอให้เปลี่ยนจากคุยในเฟชบุ๊กไปคุยในไลน์แทน หลังจากนั้นหญิงสาวรายนี้ก็ได้ทักมาหาทั้งเช้า กลางวัน เย็น และกลางคืนเพื่อชวนคุยเรื่องต่าง ๆ และบางครั้งก็มีการเรียกว่าที่รัก แล้วหลังจากนั้นหญิงสาวรายนี้ก็ได้ชวนเขาคุยเกี่ยวกับการงานและการลงทุนเทรดเหรียญ Cryptocurrency เพื่อเก็งกำไร และบอกว่าตัวเองเป็นนักธุรกิจหญิงที่อยู่ที่เชียงใหม่

โดยนายสมชายเผยว่า จากนั้นหญิงสาวรายนี้ก็ได้ให้เขาโหลดแอปเกี่ยวกับการเทรด Cryptocurrency โดยได้สอนให้เขาหัดลงทุนเทรดเหรียญ แต่มีข้อแม้ว่ากำไรจะต้องมาแบ่งกันคนละครึ่ง แล้วหญิงสาวรายนี้ก็ได้ให้เขาโหลดแอปอีกแอปหนึ่งเพื่อดูยอดเงินและกำไรที่ได้จากการเทรด และในวันที่ 3 กรกฏาคม เขาได้ทดลองโอนเงินไปจำนวน 18,000 บาท และได้กำไรกลับมา 20% ซึ่งยอดเงินในแอปดูยอดเงินก็เพิ่มขึ้น ทำให้ตัดสินใจลงทุนเพิ่มไปอีก 330,000 บาท โดยไปโอนไปยังอีกบัญชีหนึ่ง โดยหญิงสาวรายนี้อ้างว่าเธอเองมีเหรียญไม่พอต้องซื้อจากคนอื่นมาเพิ่มอีกทอดหนึ่ง และหลังจากนั้นยอดกำไรในแอปก็มีเพิ่มขึ้นมาอีก แล้วต่อมาก็มีเงินโอนเข้ามา 17,000 บาท ซึ่งหญิงสาวรายนี้อ้างว่าเป็นส่วนแบ่งกำไร ด้วยเหตุนี้ทำให้เขายิ่งเชื่อใจและลงทุนไปอีก 300,000 บาท

และหลังจากโอนไปอีก 300,000 บาท เขาก็เล่ามาได้กำไรเพิ่มขึ้นมาอีก 50% เมื่อได้กำไรขนาดนี้แล้วแต่สาวยังคงหว่านล้อมให้ลงทุนเพิ่มอีกก็ทำให้เขาเอ๊ะใจ ทำให้หยุดลงทุนไปหลายวัน แต่หญิงสาวรายก็ได้พยายามทักมาหาเพื่อโน้มน้าวหลายครั้ง จนกระทั่งวันที่ 6 ก.ค. ตนจึงได้โอนเงินเพิ่มเข้าไปอีกจำนวน 1 ล้านบาท และโอนเพิ่มอีกครั้งเป็นเงินจำนวน 550,000 บาท ปรากฏว่ายอดเงินในแอปเพิ่มขึ้นสูงถึง 28 ล้านบาท ทำให้ตัดสินใจที่จะถอนออกมา แต่หญิงสาวอ้างว่าขอตั้งเป้าให้ถึง 50 ล้านแล้วจะหยุด และหลังจากเขาทนการรบเร้าของหญิงสาวไม่ไหว เขาจึงได้ตัดสินใจโอนเงินอีกครั้งในวันที่ 8 ก.ค. เป็นเงินจำนวน 1.2 ล้านบาท และวันที่ 13 ก.ค. จำนวน 1 ล้านบาท และวันที่ 14 ก.ค. ซึ่งเป็นเงินเก็บก้อนสุดท้ายอีกจำนวน 5 แสนบาท รวมยอดโอน 9 ครั้งเป็นเงิน 4,898,000 บาท

นายสมชายเล่าต่ออีกว่าทางแอปไม่อนุญาติให้ถอนทีเดียว 50 ล้านบาท ทางแอปอนุมัติให้ถอนได้ครั้งละ 14 ล้านบาท แล้วมีการแจ้วว่าต้องชำระภาษีก่อน 20% จึงสามารถถอนออกมาได้ ซึ่งเมื่อเขาคำนวณดูแล้วเขาจะต้องจ่ายถึง 8 ล้านบาทก่อน เขาบอกให้ทางแอพหักจาก 50 ล้านออกมาได้เลย แต่หญิงสาวบอกทำไม่ได้ ทางแอพไม่ยินยอม จะต้องหาเงินจำนวน 8 ล้านบาทมาจ่ายภาษีก่อนเท่านั้น ซึ่งตอนนี้เขาเองก็ไม่มีเงินแล้ว และจากนั้นหญิงสาวก็ได้บอกให้จำนองบ้านหรือกู้ยืมเงินนอกระบบมาจากภาษี จึงทำให้เขาเริ่มสงสัยว่าจะถูกหลอกหรือป่าว ปรากฏว่าเขาไปเจอข้อมูลเกี่ยวกับการหลอกเทรดเหรียญ Cryptocurrency จำนวนมากในโซเชียล

จากนั้นเมื่อหญิงสาวรายนี้เห็นว่าเขาไม่สามารถหาเงินจำนวน 8 ล้านบาทมาได้ จึงได้ทำการบล็อกช่องทางการติดต่อทุกช่องทาง เขาจึงได้ไปเข้าแจ้งความในเบื้องต้น แต่คดีกลับไม่คืบหน้า จึงได้ติดต่อหาผู้สื่อข่าวเพื่อนำเรื่องราวของเขาเป็นอุทาหรณ์เตือนใจนักลงทุนหน้าใหม่ทั้งหลายที่หวังจะหารายได้ทางนี้ รวมถึงภุยจากมิจฉาชีพในโลกโซเชียลที่แฝงตัวเข้ามาหลอกเอาทรัพย์สินด้วยกลวิธีต่าง ๆ นอกจากนี้เขายังได้เตรียมเข้าปรึกษาทนายเพื่อขอความช่วยเหลือ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความชำนาญในเรื่องนี้ให้ตรวจสอบบัญชีที่ตนได้โอนเงินไปลงทุนซื้อเหรียญเพื่อตามหาตัวหญิงสาวรายนี้ต่อไป

ดังนั้นนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้การที่จะตัดสินใจลงทุน และไม่ควรเชื่อผู้อื่นในการลงทุน ควรศึกษาข้อมูล และทำการลงทุนด้วยตัวเอง และทาง SiamBlockchain หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นอุทาหรณ์และจะไม่มีใครตกเป็นเหยื่อการลงทุนในโลกคริปโตนี้อีก

Source : One31