เว็บกระดานเทรด Crypto ยุคบุกเบิก Blockchain.com ได้กลายเป็นอีกหนึ่งบริษัทล่าสุดที่ได้รับอนุมัติจากธนาคารกลางของสิงคโปร์เพื่อให้บริการ Digital Payment Token ในประเทศ
การได้รับใบอนุญาตของ Blockchain.com เกิดขึ้นหลังจาก Coinbase ได้รับอนุมัติในแบบเดียวกันจากแบงก์ชาติสิงคโปร์ หรือ Monetary Authority of Singapore (MAS) เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมา
นั่นหมายความว่าบริษัท Blockchain.com จะได้ไปเข้าร่วมกับบริษัทด้าน Payment Token อื่น ๆ ที่เคยได้รับอนุญาตไปก่อนหน้านี้อาทิเช่น DBS Vickers and Independent Reserve, ผู้ให้บริการโซลูชันการชำระเงินดิจิทัล FOMO Pay และแอปด้านคริปโต Revolut เป็นต้น
Peter Smith CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Blockchain.com ยกย่องหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศว่าสิ่งนี้เป็นการสร้าง “กระบวนการกำกับดูแลที่โปร่งใส” เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมโดยระบุว่า:
“Blockchain.com ยกย่อง Monetary Authority of Singapore เกี่ยวกับกระบวนการกำกับดูแลที่โปร่งใสซึ่งจัดลำดับความสำคัญของการกำกับดูแลอุตสาหกรรม crypto ในขณะที่ปล่อยให้นวัตกรรมเติบโต”
พวกเขาไม่ใช่บริษัทแรกที่อ้างอิงถึงสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่ตรงไปตรงมาในสิงคโปร์สำหรับบริษัทคริปโต
เมื่อเร็ว ๆ นี้ Diogo Mónica ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานของบริษัทด้านแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล Anchorage Digital ชี้ให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่เข้มงวดของสิงคโปร์และการเกิดขึ้นของศูนย์กลางด้านคริปโตของสิงคโปร์ที่เป็นแรงจูงใจในการเลือกประเทศนี้เพื่อสร้างสำนักงานใหญ่ก่อนเจาะตลาดเข้าสู่เอเชีย
โมนิกายังกล่าวอีกด้วยว่าการขาดความชัดเจนด้านกฎระเบียบในสหรัฐอเมริกาเป็นประเด็นสำคัญ โดยเสริมว่าแม้ว่าบริษัทจะเข้าใจกฎเกณฑ์ที่ควบคุมสินทรัพย์ แต่ก็ยังเป็นเรื่องยากในการเข้าไปพูดคุยกับผู้ออกกฎหมายเหล่านั้น
ในเดือนสิงหาคม 2564 เว็บเทรด Independent Reserve เป็นหนึ่งในคู่แข่งรายแรกจาก 170 แห่งทั่วโลกที่ได้รับใบอนุญาต DPT
Adrian Przelozny หรือซีอีโอของบริษัทยังได้กล่าวในเชิงบวกถึงความโปร่งใสของสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบของสิงคโปร์ ในขณะนั้นว่า
“สภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมอย่างดีจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งนักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมคริปโต ด้วยกฎเกณฑ์ที่ถูกสร้างมาสำหรับอุตสาหกรรม crypto ปัจจุบันสิงคโปร์มีข้อกำหนดด้านใบอนุญาตที่ชัดเจนและมีรายละเอียดมากที่สุดสำหรับเขตอำนาจศาลใด ๆ ในเอเชีย”
Przelozny เสนอว่าการให้ใบอนุญาต “จะยังคงทำให้สิงคโปร์อยู่ในตำแหน่งศูนย์กลางทางการเงินชั้นนำในเอเชีย”