ผู้ใช้หลายคนต่าง ๆ คาดหวังกันว่า เครือข่ายที่ได้รับการอัปเกรดใหม่อย่าง Shanghai จะนำมาซึ่งการพัฒนาในส่วนของการถอนเหรียญ ETH S take บน Ethereum 2.0 และในเรื่องของการทำธุรกรรมที่มีค่าธรรมเนียมที่ถูกลง โดยการอัพเกรด Shanghai ในเวอร์ชัน testnet จะมีชื่อว่า Shandong ซึ่งเปิดให้ใช้งานแล้วในขณะที่รายงาน ทั้งนี้คาดนักพัฒนาจะเริ่มดำเนินทดสอบตัวอัปเกรดใหม่นี้ต่อไปจนถึงเดือนกันยายน 2023
Shanghai นับเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่ครั้งแรก นับตั้งแต่อัปเกรดเปลี่ยนระบบฉันทามติของเครือข่าย Ethereum ไปใช้ Proof-of-Stake (PoS) ในเดือนกันยายน หลังจากที่ Mainnet และ Beacon Chains ถูก Merge เข้าด้วยกัน
ทั้งนี้การอัปเกรดที่กำลังจะมีขึ้นจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบใน Ethereum Virtual Machine (EVM) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนสัญญา Smart Contact ของเครือข่าย
EIP-3540 หรือรูปแบบอ็อบเจ็กต์ EVM เป็นหนึ่งในการอัปเดตที่ถูกคาดหวังมากที่สุด เนื่องจากข้อเสนอนี้จะแยกการเข้ารหัสออกจากข้อมูล ซึ่งอาจเป็นประโยชน์สำหรับตัวตรวจสอบความถูกต้องบนเครือข่าย ข้อเสนอที่คาดหวังอีกประการหนึ่งคือ EIP-4895 ซึ่งจะเข้าช่วยทำให้ ETH ที่ถูก Stake ไว้สามารถเพิกถอนได้ผ่าน Beacon Chain เพื่อให้แน่ใจว่าเครือข่ายยังคงมีคววามเสถียรภาพ
ในบรรดาข้อเสนอที่อยู่ระหว่างการพิจารณา การอัปเกรดจะนำเสนอการเปลี่ยนแปลงโปรโตคอล Layer 2 ลดราคาก๊าซลง โดยทำให้ขนาดบล็อกเท่ากันและเพิ่มประสิทธิภาพการเรียกใช้ข้อมูลในเครือข่าย
“เมื่อเชนภายนอกถูกสร้างบนเครือข่าย Layer-2 เช่น Polygon และลดต้นทุนในการสื่อสารข้อความกับ Ethereum Chain หลัก สิ่งนี้จะลดราคา Gas สำหรับผู้ใช้ทุกที่ในระบบนิเวศ — โดยทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการขยายขนาดในแนวนอนในลักษณะที่กระจายความต้องการ”
อย่างไรก็ตาม การอัปเกรด The Merge เป็นแค่เพียงเฟสแรกในกระบวนการ 5 ส่วนนี้ ซึ่งได้รับการอธิบายอย่างละเอียดโดยนักพัฒนา Ethereum จำนวนหนึ่ง
ในส่วนของเฟสต่อไปที่กำลังจะมาถึงนั้นได้แก่ The Surge ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการเพิ่มความสามารถในของบล็อคเชนในการจัดเก็บและเข้าถึงข้อมูล ตามมาด้วย The Verge, The Purge และ The Splurge สามเฟสสุดท้ายของการพัฒนาเครือข่าย Ethereum ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ที่มา : cointelegraph