<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

กระเป๋าเงิน Dogecoin ที่ไม่เคลื่อนไหวมานานกว่า 9 ปีเทขายเหรียญมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Whale Alert บริการติดตามธุรกรรมเจ้ามือขนาดใหญ่ได้เผยแพร่ธุรกรรมขนาดใหญ่ใหม่บนกระเป๋าเงิน Dogecoin ที่หลับไหลมานานกว่า 9 ปีด้วยเหรียญจำนวนกว่า 2,374,814 DOGE ซึ่งมีราคาประเมินในปัจจุบันอยู่ที่ 338,661 ดอลลาร์

Dogecoin เหรียญที่ถูกสร้างขึ้นโดยวิศวกรไอที Billy Markus และ Jackson Palmer ในปี 2013 เพื่อล้อเลียน Bitcoin โดยปัจจุบัน DOGE ยังทำงานบนกลไกฉันทามติแบบ Proof-of-Work เช่นเดียวกับ Litecoin 

เมื่อไม่นานมานี้ Dogecoin กลายเป็นเทรนด์อีกครั้งในขณะนี้ โดยที่ Elon Musk ซึ่งเป็นแฟนตัวยงของ DOGE ได้ซื้อ Twitter ในที่สุด และชุมชนคาดหวังว่าเขาจะเพิ่มการชำระเงินด้วย Dogecoin 

ในระหว่างนี้ เจ้ามือขนาดใหญ่มากมายก็กลับมีความกระฉับกระเฉงมากขึ้น และกำลังเคลื่อนย้าย DOGE จำนวนมากที่พวกเขาเคยขุดไว้นำมาเทขายอย่างต่อเนื่อง

1.1 พันล้าน DOGE กำลังเคลื่อนไหว 

ตามทวีตก่อนหน้านี้หลายแหล่งโดยแหล่งดังกล่าว กระเป๋าเงินนิรนามได้เปลี่ยน Dogecoins มากกว่า 1.1 พันล้าน DOGE ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งบางส่วนถูกย้ายไปที่ Binance กระดานเทรดคริปโตยักษ์ใหญ่ระดับโลก 

อีกทั้งยังมีธุรกรรมขนาดใหญ่อีกเป็นจำนวนมาก โดยพบเห็นการเคลื่อนย้าย Dogecoin จำนวน 299,999,998 DOGE, 150,000,000 DOGE และ 449,999,998 DOGE ซึ่งเป็นก้อนที่ใหญ่ที่สุดในจำนวนธุรกรรมทั้งหมด รวมแล้วมูลค่ากว่า 146.5 ล้านดอลลาร์ 

ทั้งนี้มี Dogecoin จำนวน 41,096,902 ถูกโอนไปยังกระดานเทรด Binance และมีแนวโน้มว่าจะขายไปแล้วเนื่องจากราคาของสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 117% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

Elon Musk พิจารณาเพิ่ม DOGE ใน Twitter 

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนElon Muskได้โพสต์ภาพฮัลโลวีนกับสุนัขชิบะอินุสวมเสื้อยืดที่มีโลโก้ Twitter ชุมชนเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นคำใบ้ในการรวมการชำระเงิน Dogecoin ในไม่ช้า 

เมื่อถูกถามโดยตรงว่าเขาตั้งใจที่จะรวม DOGE หรือว่าเขากำลังทำงานร่วมกับทีมพัฒนา Dogecoin หรือไม่ Musk ก็ทวีตอีโมจิดวงตา ซึ่งสร้างความสงสัยแก่ชุมชนมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ Musk ได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่า Twitter จะเรียกเก็บเงิน $8 ต่อเดือนกับผู้ใช้ที่ได้รับเครื่องหมายถูกทุกคน แม้ว่าสิ่งนี้ทำให้หลายคนบน Twitter ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งก็ตาม 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกเนื่องจากมหาเศรษฐีต้องการเรียกเก็บเงิน 20 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับผู้ใช้ที่ได้รับเครื่องหมายถูก แต่หลายๆ คนรวมถึงนักเขียนชื่อดังชาวอเมริกัน Stephen King  ที่มีผู้ติดตาม 7 ล้านคนตอบโต้ในทางลบ 

โดย  King กล่าวว่าหากใช้ค่าธรรมเนียม 20 ดอลลาร์ เขาจะออกจาก Twitter และเขาได้เริ่มใช้แอปโซเชียลมีเดียของทรัมป์แทน