รายงานของ Standard Chartered คาดการณ์ว่า ความพ่ายแพ้ของนักลงทุน Crypto มีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในปี 2023
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หัวหน้าฝ่ายวิจัยระดับโลก Eric Robertsen กล่าวว่าการลดลงของราคา Bitcoin อีกประมาณ 70% จนเหลือเพียงแค่ 5,000 ดอลลาร์ภายในปีหน้านั้น เป็นหนึ่งในเรื่องที่ “น่าประหลาดใจ” สำหรับใครหลาย ๆ คน เนื่องจากระดับราคาดังกล่าว “ต่ำกว่าที่หลายคนคาด”
Robertsen กล่าวเสริมว่า ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้นี้เกี่ยวข้องกับการกลับตัวของแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเศรษฐกิจและ Crypto ต้องดิ้นรนมากขึ้น รวมทั้งยังเกี่ยวข้องกับ “ความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ดิจิทัลของนักลงทุนที่ถอยหลังเข้าคลอง”
การตอบคำถามเกี่ยวกับอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นเริ่มกลายที่น่าสะเทือนขวัญ หลังจากการล่มสลายของกระดานเทรด FTX และ Alameda Research ที่สร้างแรงกระเพื่อมไปยังบริษัท Crypto หลายเจ้า และราคาเหรียญหลายเหรียญในตลาด ซึ่งเห็นได้จากราคาของ Bitcoin และเหรียญคริปโตชั้นนำใน 100 อันดับแรกที่ร่วงลงมากกว่า 60% ในช่วงปีที่ผ่านมา
“การพิจารณาถึงสถานการณ์ในปัจจุบันของเราก็คือ การบังคับขายได้จบลงแล้ว แต่นักลงทุนอาจไม่ได้รับการชดเชยสำหรับความเสี่ยงในตลาดที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้” Sean Farrell หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินทรัพย์ดิจิทัลของ Fundstrat กล่าวเมื่อวันศุกร์
Farrell ชี้ให้เห็นถึงความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่องของ Digital Currency Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Genesis โบรคเกอร์ Crypto เนื่องจากเจ้าหนี้ของ Genesis กำลังพยายามมองหาทางเลือกเพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทแม่ล้มละลาย
นอกจากนี้ Robertsen จาก Standard Chartered ยังได้กล่าวว่าสถานการณ์ของราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากราคา Crypto ลดต่ำลงนั้น อาจทำให้นักลงทุนกำหนดเป้าหมายของราคาโลหะสีเหลืองทองใหม่ไว้ที่ระดับ 2,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์
“ทองคำจะได้รับประโยชน์จากปัญหาของ Crypto ในอนาคต เพราะความเชื่อมั่นใน Crypto ที่ลดลงอย่างกะทันหันในระบบนิเวศ” Nicholas Frappell จากสถาบันระดับโลก ABC Refinery ในซิดนีย์กล่าว
ภาคอุตสาหกรรม Crypto ยังคงประสบกับภาวะถดถอยอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น บริษัทเว็บเทรด Bybit กำลังวางแผนที่จะปลดพนักงานออก 30% ซึ่งนับว่าเป็นการเลิกจ้างครั้งใหญ่ล่าสุดที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมนี้
เป็นไปได้ว่าความเจ็บปวดที่มากขึ้นอาจกำลังรอเหล่านักเทรดอยู่ในอนาคตข้างหน้า โดย 94% ของผู้ตอบแบบสำรวจ MLIV Pulse ของ Bloomberg มีความเห็นว่าจะมีบริษัทล้มตามมา หลังจากการล้มละลายของ FTX
ที่มา: finance.yahoo